ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม ปี 2562 บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ซึ่งเป็นผู้บริหาร ‘พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ’ ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า จะมีการยกเครื่องห้างไอทีเก่าแก่ของไทย หลังจากที่รู้แล้วว่าคอนเซปต์การเป็นห้างไอทีใช้ไม่ได้อีกแล้วในยุคนี้
ในครั้งนั้น AWC ระบุว่า จะเกิดการปรับ Positioning ครั้งใหญ่ จากแหล่งรวมของไอทีไปสู่คอนเซปต์ที่รวมทั้งการช้อป กิน เล่น และชิล พร้อมกับรีแบรนด์ชื่อไปเลย
หลังจากผ่านไป 1 ปีกว่าๆ ความชัดเจนมีมากขึ้นสำหรับ ‘พันธุ์ทิพย์ พลาซา ประตูน้ำ’ โดย AWC ได้ตัดสินใจปิดตำนานห้างไอทีอายุ 36 ปี โดยเปลี่ยนให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าส่งใจกลางเมืองภายใต้ชื่อ ‘AEC TRADE CENTER – PANTIP WHOLESALE DESTINATION’
“ศูนย์แห่งนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนไทยในภาคธุรกิจต่างๆ ทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออก และนำเข้าสินค้า ในการแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจ ด้วยช่องทางในการขายสินค้าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ” วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)
เบื้องต้นศูนย์ค้าส่งแห่งนี้จะเน้นผลักดันให้มีสินค้าจากผู้ผลิตต้นน้ำที่มีคุณภาพในหลากหลายหมวดสินค้า อาทิ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่งภายใน ของเล่น ของชำร่วย เครื่องเขียน ของขวัญ ของตกแต่งบ้าน นวัตกรรมการพิมพ์ เป็นต้น
ล่าสุดได้มีการลงนามกับสมาคมการค้า 11 แห่ง ได้แก่ สมาคมเฟอร์นิเจอร์ไทย และสมาคมธุรกิจไม้, กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย, สมาคมการค้าของเล่นและผลิตภัณฑ์เด็กไทย, สมาคมเครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงานไทย, สมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน, สมาคมการค้านวัตกรรมการพิมพ์ไทย, สมาคมสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์, สมาคมธุรกิจร้านอาหาร, สมาคมผู้ส่งออก เอสเอ็มอีไทย สำหรับดึงสมาชิกให้เข้ามาตั้งร้านค้า
ในระยะแรกคาดว่าจะมีร้านค้าเข้ามาทั้งสิ้น 300 ร้านค้า โดย AWC ใจป้ำ ไม่คิดค่าเช่านาน 6 เดือน ซึ่งเดิมนั้นในวันที่ยังเป็น ‘พันธุ์ทิพย์ พลาซา ประตูน้ำ’ มีค่าเช่าตั้งแต่ 800-7,000 ตารางเมตรต่อเดือน โดยมีการประเมินว่าการให้เช่าฟรีในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 300 ล้านบาทด้วยกัน เมื่อรวมกับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอีก 200 กว่าล้านบาท รวมๆ ใช้งบไปทั้งสิ้น 500 ล้านบาท
อนันต์ ลาภสุขสถิต หัวหน้าคณะกลุ่มโฮลเซลล์ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า AEC TRADE CENTER จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่เลือกเปิดช่วงนี้เพราะแม้จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 แต่การติดต่อเรื่องค้าขายก็ยังคงมีอยู่ อีกอย่างเป็นการเปิดเพื่อเตรียมพร้อมก่อนสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น
“ในช่วงแรกเราคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าสถานการณ์โรคโควิด-19 ผ่านพ้นไป เราเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าได้ไม่ยาก”
ช่วงแรกนี้อนันต์จะเน้นปั้นให้ AEC TRADE CENTER นั้น ‘เกิด’ ก่อน โดยคำว่าเกิดคือหลังจากที่ผ่านช่วงไม่คิดค่าเช่านาน 6 เดือน แล้วยังมีผู้เช่าอยู่ต่อในระดับที่วางไว้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
ขณะเดียวกันนอกเหนือจากช่องทางออฟไลน์แล้ว ยังเตรียมที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ภายใต้ชื่อ ‘ฟีนิกซ์ บล็อก’ ซึ่งจะช่วยให้ร้านค้าสามารถติดต่อกับคู่ค้าต่างประเทศได้ และนอกเหนือจากในกรุงเทพฯ แล้ว ยังวางแผนที่จะขยายไปเปิดที่พระนครศรีอยุธยา และหลังจากนั้นจะขยายไปยังเขตชายแดน โดยขณะนี้มีที่ดินเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่การก่อสร้างเท่านั้น ซึ่งจะสร้างเมื่อไรนั้นต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์