สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนกรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ ตามคำเชิญของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยทั้งสองจะร่วมหารือกันในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หรือตรงกับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย
เป้าหมายของการเดินทางเยือนครั้งนี้คือการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนาน และมองไปสู่อนาคต เพราะไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยปานปรีย์จะหารือกับบลิงเคนในหลายประเด็น อาทิ ประเด็นด้านความมั่นคงและการฝึกซ้อมรบร่วมคอบร้าโกลด์ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะไทยกับสหรัฐฯ โดยการฝึกซ้อมรบครั้งนี้ได้เปิดให้หลายประเทศในภูมิภาคเข้าร่วมด้วย ส่วนเรื่องของความมั่นคงจะมีการหารือในระดับนโยบายและจะยกระดับต่อไป
สีหศักดิ์เปิดเผยด้วยว่า การพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เรื่องของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ในระดับภูมิภาค และประเด็นที่ต้องหารือกันต่อไปคือเรื่องของเมียนมา ซึ่งสหรัฐฯ สนใจบทบาทของไทยที่เพิ่มความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกับเมียนมาตามแนวชายแดน ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมา อาเซียน และประชาคมโลก
สำหรับหัวข้อสำคัญอย่างประเด็นด้านภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่สหรัฐฯ พยายามผลักดันกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) ที่มีการเจรจาหลายรอบและประเทศไทยก็มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ จะต้องหารือกันว่าจะกระชับความร่วมมือในการผลักดันกรอบ IPEF ให้มีความคืบหน้าอย่างไร
ส่วนความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ประเทศไทยมีโครงการแลนด์บริดจ์นั้น สีหศักดิ์กล่าวว่าสหรัฐฯ มีความสนใจและอยากมีบทบาทในการสร้างความเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์มีความสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค และประเทศไทยมีความจริงจังในการดำเนินโครงการนี้
เมื่อถามว่าเป็นผลสืบเนื่องกันหรือไม่ภายหลังจากที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเยือนสหรัฐฯ และได้มีโอกาสพูดคุยถึงโครงการแลนด์บริดจ์ สีหศักดิ์กล่าวว่าถือเป็นผลสืบเนื่องกัน เพราะตอนนี้สหรัฐฯ สนใจโครงการแลนด์บริดจ์ โดยมองว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค ไม่ใช่เพียงการส่งเสริมบทบาทของไทยในการเป็นศูนย์กลาง แต่ยังเชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ที่ผ่านมาบทบาทของสหรัฐฯ เน้นไปที่เรื่องการเมืองและความมั่นคง แต่ระยะหลังเน้นผลักดันกรอบความร่วมมือและเศรษฐกิจในอินโดแปซิฟิกด้วย
“เราไม่อยากพูดถึงการแข่งขัน ความขัดแย้งในภูมิภาค เราต้องการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สิ่งที่เรายินดีอย่างหนึ่งก็คือสหรัฐฯ หันมาเน้นเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้นในการดำเนินนโยบายอินโดแปซิฟิกต่อกัน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศกล่าว
สีหศักดิ์ยังเปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ตามเวลาสหรัฐฯ จะมีการประชุมกับทีมของไทย เพื่อขอให้หัวหน้าพนักงานอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับสถานะความสัมพันธ์แต่ละด้าน และในวันเดียวกันนี้ นอกจากปานปรีย์จะได้พบกับบลิงเคนแล้ว ก็จะมีวาระการพบกับวุฒิสมาชิก เพราะในสหรัฐฯ บทบาทของรัฐสภามีความสำคัญ ดังนั้นทุกประเทศต้องสร้างมิตรในรัฐสภา โดยปานปรีย์จะพบกับ คริส แวน ฮอลเลน ประธานอนุกรรมการว่าด้วยเอเชียตะวันออก แปซิฟิก และนโยบายความปลอดภัยทางไซเบอร์ระหว่างประเทศ คณะกรรมการความสัมพันธ์ต่างประเทศวุฒิสภา รวมถึงจะพบกับ แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสภาหญิงเชื้อสายไทย ซึ่งเป็นมิตรที่ดีของไทยด้วย
อ้างอิง: กระทรวงการต่างประเทศ
