แม้กฎหมายไทยจะอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์และทดลองวิจัยกับมนุษย์ได้แล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกัญชาแก่คนทั่วไปนั้นยังคลุมเครือ หลายคนยังมองเป็นสิ่งเสพติดให้โทษที่ไม่ควรแตะต้อง ในขณะที่อีกหลายคนคิดฝันจะปลูกกัญชาในสวนหลังบ้านด้วยตัวเอง โดยแทบไม่มีใครส่งต่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างจริงจัง
จนกระทั่งเราได้ยินข่าวคราวของ ‘พันธุ์บุรีรัมย์’ มหกรรมที่จะรวบรวมทุกองค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชา นำเสนอผ่านรูปแบบที่สร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับมหกรรมความบันเทิงจากศิลปินชั้นนำ
THE STANDARD จึงรีบติดต่อพูดคุยกับ แนน-ชิดชนก ชิดชอบ หัวเรือใหญ่ผู้ดูแลการจัดงานพันธุ์บุรีรัมย์ ครั้งแรกของมหกรรมกัญชาเพื่อการแพทย์ และนับเป็นครั้งแรกของเธอเช่นกันสำหรับการเนรมิตอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีใครจัดขึ้นมาก่อน ไม่มีใครรู้ว่าปลายทางของงานจะเป็นอย่างไร แต่บรรทัดต่อจากนี้คือเรื่องราวเบื้องหลัง ที่มาของ ‘พันธุ์บุรีรัมย์’ และคำตอบว่าทำไมคุณควรไปงานนี้ จากคำบอกเล่าของเธอเอง
‘พันธุ์บุรีรัมย์’ คืออะไร
คำนี้มันมาจากการที่เราเป็นคนบุรีรัมย์ เวลาจะทำอะไร คุณพ่อ (เนวิน ชิดชอบ) ก็จะทำด้วยหลัก 3 อย่างคือ แปลกใหม่ มีมาตรฐานสูง และสามารถแบ่งปันให้ชาวบ้านกับคนรอบตัวได้ด้วย ทีนี้เราก็นำความคิดนี้มารวมกับเรื่องกัญชาที่เราอยากจะช่วยผลักดัน เลยกลับมาคิดว่ามันไม่ใช่แค่คนที่อยู่บุรีรัมย์แล้วนะ มันคือคนที่กล้าคิดกล้าทำ ผลักดันบางสิ่งบางอย่างให้เกิดประโยชน์กับสังคม เป็นคนพันธุ์นี้
ความแปลกคือไม่ค่อยมีงานที่เกี่ยวกับกัญชาในประเทศไทย ความมีมาตรฐานก็อาจจะเป็นเรื่องของสเกลงานที่ค่อนข้างใหญ่ มีดนตรี 3 เวที มีสัมมนา เวิร์กช็อป เราเชิญคนที่มีความรู้จริงๆ มาสื่อสารเรื่องกัญชา ส่วนการมีส่วนร่วมของชุมชน งานนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีภาคจังหวัดเข้ามาช่วย และเราพยายามนำเสนอร้านอาหารชื่อดังในท้องถิ่น หรือพวกสินค้าโอทอปก็จะมีวางขายในงาน
‘กัญชา’ กลายเป็นไฮไลต์ของพันธุ์บุรีรัมย์ได้อย่างไร
กัญชาเป็นหัวข้อที่กำลังถูกพูดถึงเยอะในช่วงนี้ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีหลายประเทศที่กัญชาถูกกฎหมายแล้ว มีหลายประเทศที่อยู่ระหว่างถกเถียง ส่วนประเทศไทยเหมือนกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน น่าสนใจว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อ เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันไม่ใช่ยาเสพติด แต่มันก็ใช้เป็นยาได้ ในงานนี้เราก็อยากปรับทัศนคติของคนที่มีต่อกัญชา ต่อคนที่ใช้กัญชา เราอยากให้ความรู้ที่ถูกต้องกับคนไทยจริงๆ
ปกติแล้วงานที่จั่วหัวว่าให้ความรู้มักจะอยู่ในรูปแบบเสวนา หรือนิทรรศการ อะไรคือแรงบันดาลใจให้พันธุ์บุรีรัมย์จัดเป็นเฟสติวัล
เอาง่ายๆ เรานึกถึงตัวเอง แล้วแนนก็เชื่อว่าทุกคนเป็น คือไม่ชอบนั่งเรียนอะไรแบบแห้งๆ ถ้าจะนำเสนอเหมือนอยู่ในห้องเรียน เขาก็ไปเปิดดูยูทูบ ไปเปิดเว็บไซต์อ่านเอาเองได้ เราเลยอยากทำให้ข้อมูลที่มีสาระพวกนี้มันสนุกหน่อย ทำให้มันย่อยง่ายขึ้น ในงานเราจะมีทั้งพาร์ตที่ได้ความรู้ มีพาร์ตที่ผ่อนคลาย ไม่อยากให้คนรู้สึกว่าได้รับข้อมูลเยอะเกินไป แล้วคัลเจอร์ของกัญชาไม่ได้มีแค่เชิงการแพทย์อยู่แล้ว เราก็อยากจะเอาแง่มุมต่างๆ ที่คนแนวนี้จะสนใจเข้ามารวมอยู่ด้วย ดนตรีก็ดี อาหารก็ดี
ภายในงานนี้เราจะได้เจออะไรบ้าง
งานนี้ประกอบด้วย 4 พาร์ต พาร์ตที่ 1 เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชา มีสัมมนา เวิร์กช็อปที่เราเชิญอาจารย์มาให้ความรู้ตั้งแต่การปลูก การแปรรูป ประโยชน์ และวิธีการใช้ในทางการแพทย์ เราอยากให้คนได้เห็น ได้สัมผัสจริงๆ ว่าถ้าจะปลูกแบบมีคุณภาพระดับที่ใช้ในการแพทย์ได้ต้องทำอย่างไร รวมถึงด้านกฎหมายว่าตอนนี้ประเทศไทยก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งไฮไลต์จริงๆ ของพาร์ตนี้คือ เราจะจัดประกวดต้นกัญชาเพื่อการแพทย์เป็นครั้งแรกของประเทศไทยด้วย
ส่วนพาร์ตที่ 2 เป็นดนตรี ซึ่งแนนคิดว่ามันสำคัญเหมือนกันนะ เพราะการเรียนรู้อะไรสักอย่างมันไม่จำเป็นต้องซีเรียสตลอดเวลา พาร์ตนี้ก็จะได้ผ่อนคลายบ้าง เรามี 3 เวที เวทีหลัก ‘พันธุ์บุรีรัมย์’ เน้นไปทางฮิปฮอป อีกเวทีหนึ่งคือ ‘พรรคเขียว’ เน้นไปทางเรกเก้หน่อย และสุดท้าย ‘เวทีพรรคผ่อน’ เป็นแนวอิเล็กทรอนิกส์ เราก็ชวนดีเจต่างชาติมาด้วย
พาร์ตที่ 3 เป็นโซนอาหาร เราจะนำอาหารท้องถิ่นร้านเด็ดๆ มาไว้ในงาน และพาร์ตสุดท้ายคือ หมู่บ้านจัดแสดงงานศิลปะที่ทุกคนเข้าถึงได้
ในฐานะแม่งานมือใหม่ ส่วนไหนที่สนุกที่สุดสำหรับคุณ
มันสนุกตรงที่ก่อนหน้านี้ตัวแนนเองก็ไม่ได้มีความรู้ว่าจริงๆ แล้ววงการกัญชาในประเทศไทยไปถึงไหนแล้ว พอมาเริ่มโปรเจกต์นี้ เราก็ได้ไปพูดคุยกับคนที่เป็นผู้บุกเบิกของวงการนี้ ทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ หรือองค์กรแพทย์แผนไทยก็ดี เลยได้รู้ว่ามันมีคอมมูนิตี้แบบนี้ด้วย เป็นสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน
แล้วส่วนที่ยากที่สุดล่ะ
ด้วยสเกลงานที่ใหญ่มากๆ เราต้องประสานงานกับหลายคนหลายภาคส่วน เฉพาะศิลปินก็มีมากกว่า 400 ชีวิต แล้วยังต้องติดต่อกับองค์กรต่างๆ ภาครัฐด้วย โชคดีที่ทีมงานเก่งกันอยู่แล้ว เราก็สบายใจหน่อย
ในโปรเจกต์นี้แนนจะดูแลเรื่องแบรนด์กับพวก Corporate Identity เป็นหลัก ถ้าดูจากโลโก้ โปสเตอร์ต่างๆ จะเห็นว่าเราใช้ลิงเป็นตัวแทนของงาน มันมีที่มาจากตัวลิงที่อยู่ในวัดพระแก้ว เราเห็นแล้วคิดว่ามันใช่ มันคือประเทศเรา แล้วมันยังสร้างภาพที่แปลกใหม่ให้การทำอีเวนต์ในสนามบุรีรัมย์ ปกติเวลาเราทำอีเวนต์อื่นมันจะดูแข็งๆ ฟุตบอลก็มีความสปอร์ตสูงมาก แข่งรถก็เน้นซิ่ง ดุดัน แต่พันธุ์บุรีรัมย์ถือว่าแปลกที่สุดเท่าที่เราเคยจัดมาในแง่ของการทำดีไซน์คอนเซปต์
คนที่มาร่วมงานพันธุ์บุรีรัมย์ควรคาดหวังว่าจะได้อะไรกลับไปบ้าง
ต้องบอกก่อนว่างานนี้สามารถเข้าร่วมได้ทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ ไม่ได้กำหนดว่าต้องอายุเท่าไร เด็กก็มาได้ ผู้ป่วยก็มาได้ ความพิเศษคือผู้ป่วยที่มีใบรับรองอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขสามารถเข้างานได้ฟรี แล้วเราก็มีบูธเฉพาะให้ผู้ป่วยได้มาพบปะกัน ให้กำลังใจกัน อาจจะแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้กัญชาในการรักษาตัว นอกจากนี้เราก็เชิญตัวแทนจากกระทรวงฯ มาเปิดจุดลงทะเบียนสำหรับคนที่อยากนิรโทษกรรมกัญชาก็จะได้ใบอนุญาตกลับบ้านไปเลย
เราจัดงานนี้ขึ้นเพราะอยากให้ความรู้จริงๆ กับคนที่ยังมีเครื่องหมายคำถามอยู่บนหัวว่าแบบมันดีจริงหรือมันไม่ดี มันเป็นยาเสพติดไหม มันช่วยรักษาโรคได้จริงไหม ใครก็ตามที่มีคำถามพวกนี้ ที่นี่มีคำตอบ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานพันธุ์บุรีรัมย์ได้ที่ Facebook: พรรคผ่อน party party