บริษัทแม่ ‘พานาโซนิค’ ปรับฐานผลิตครั้งใหญ่ ย้ายฐานผลิตอุปกรณ์อัตโนมัติจากจีนและญี่ปุ่นมาไทย BOI เผย ต่างชาติแห่ลงทุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในไทยต่อเนื่อง หลังเดินสายโรดโชว์เจาะกลุ่มเป้าหมาย ทุบยอดส่งเสริมลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซัพพลายเชนเกี่ยวเนื่อง EV ทะลุกว่า 1.4 แสนล้านบาท
นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า บริษัท พานาโซนิค อินดัสเตรียล ดิไวซ์ ซังค์ ประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน Electronic Measuring Instrument และอุปกรณ์อัตโนมัติ เช่น Programmable Logic Controller (PLC) ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและทักษะแรงงานสูง ได้ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ทำให้มีการใช้วัตถุดิบและจ้างแรงงานในประเทศไทยจำนวนมาก
นอกจากนี้ ได้มีการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ Automotive Switch ที่จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งในประเทศไทยมีสำนักงานภูมิภาคในธุรกิจผลิต Switch, LED, Lighting และมีศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทในส่วนผลิตภัณฑ์ Infotainment ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประเทศไทยด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สัญญาณย้ายฐานผลิตชัดแล้ว! Isuzu เตรียมย้ายฐานผลิต ‘จากไทยไปอินโดนีเซีย’ เร็วสุดปีหน้า
- ชี้แจงอย่างเป็นทางการ! Isuzu ยันไม่คิดย้ายฐานการผลิตจากไทยไปอินโดนีเซีย
- เปิดแนวทางดันส่งออกไทยผงาดในห่วงโซ่อุปทานโลกยุคใหม่ นักเศรษฐศาสตร์เตือนจับตานำเข้า ปัจจัยเสี่ยงฉุด GDP ไทยที่ไม่ควรมองข้าม
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญที่ไทยต้องการดึงลงทุนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย และจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ทำให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีการย้ายฐานผลิตเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ซัพพลายเชน ซึ่งหลังจาก BOI จัดกิจกรรมเชิงรุกเพื่อดึงการลงทุนตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยได้เดินทางไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ และยุโรป มีนักลงทุนให้ความสนใจและยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI อย่างต่อเนื่อง
‘พานาโซนิคไทย’ ปรับโครงสร้าง
นฤตม์กล่าวถึงกรณี บริษัท พานาโซนิค อีโคโลจี ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ ได้ปิดตัวลงในเดือนมิถุนายน 2566 BOI ได้รับแจ้งจากผู้บริหารของบริษัทฯ ว่า เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยจะควบรวมโรงงานที่มีผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันไว้ที่โรงงานขนาดใหญ่ และปิดโรงงานขนาดเล็ก ทำให้ในส่วนของประเทศไทยจะมีการปิดโรงงานขนาดเล็ก แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการลงทุนเพิ่มเติมในอีกหลายผลิตภัณฑ์ด้วย
สำหรับโรงงานที่ปิดตัวลงในเดือนมิถุนายนนี้ เป็นโรงงานขนาดเล็กแห่งที่ 4 ผลิตพัดลมระบายอากาศ ภายใต้ชื่อบริษัท พานาโซนิค อีโคโลจี ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนโรงงานขนาดเล็กที่เหลืออีก 3 แห่ง เป็นโรงงานสำคัญที่ยังผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโรงงานขนาดใหญ่ที่อยู่ในประเทศไทยทั้ง 4 แห่ง ซึ่งผลิตระบบ Infotainment ในยานยนต์ ถ่านไฟฉาย และอุปกรณ์อุตสาหกรรม ยังเดินหน้าการผลิตและขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปิดโรงงานในต่างประเทศเพื่อมาใช้กำลังการผลิตในประเทศไทยด้วย
กลุ่มพานาโซนิค ‘ยึดไทย’ ฐานผลิตแรงงานทักษะสูง
ปัจจุบัน กลุ่มพานาโซนิค ประเทศไทย มีทั้งสิ้น 11 โรงงาน เป็นโรงงานขนาดใหญ่ 4 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนยอดขายร้อยละ 80 ของทั้งกลุ่ม และมีโรงงานขนาดเล็ก 7 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนยอดขายร้อยละ 20 ของทั้งกลุ่ม นับตั้งแต่ปี 2563 โรงงานขนาดเล็กในไทย 3 แห่งทยอยปิดตัวลง เพื่อย้ายไปรวมกับโรงงานที่มีขนาดใหญ่กว่าในผลิตภัณฑ์เดียวกัน
“ที่ผ่านมากลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประสบปัญหาจากสงครามการค้าและความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทำให้มีผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิต บริษัทข้ามชาติต่างๆ จึงต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ รวมทั้งต้องการควบรวมกิจการภายในบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยในส่วนของกลุ่มพานาโซนิค จะเห็นว่าบริษัทได้เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีและทักษะในการผลิตสูง เช่น PLC
“รวมไปถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ หรือการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะความพร้อมของซัพพลายเชน และความต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงศักยภาพในการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ที่จะเป็นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอื่นๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า EV และดิจิทัล” นฤตม์กล่าว
สำหรับช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-พฤษภาคม 2566) BOI ให้การส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รวม 79 โครงการ มูลค่า 143,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากโครงการลงทุนของพานาโซนิคแล้ว ยังมีโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าสนใจ เช่น กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับระบบโทรคมนาคมแบบใยแก้วนำแสง และระบบชิปควบคุมระบบกำลัง (Power Chip) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่ตัดสินใจมาลงทุนในไทย