กรณี พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี ระบุว่าถูกปลดออกจากพรรคเพื่อไทย โดยทราบว่าถูกปลดเมื่อเตรียมจะไปประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคที่จังหวัดขอนแก่น 28 ตุลาคม 2564 แต่ลูกน้องโทรศัพท์มาบอกว่าเขาลบชื่อนายออกแล้ว ต่อมาได้โทรศัพท์สอบถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แล้วได้รับทราบว่า ทักษิณ ชินวัตร ให้ปลดออก
ต่อมา ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมจะไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 6 มกราคม 2565 เพื่อยื่นยุบพรรคเพื่อไทยจาก 2 กรณี คือ กรณี พล.อ. พัลลภ ระบุว่าถูกปลดออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยโดยทักษิณให้ปลดออก และกรณีทักษิณวิดีโอคอลหา เกรียง กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ด้าน เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ถึงประธาน กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ (4 มกราคม) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงที่พรรคเพื่อไทยกรณี พล.อ. พัลลภ ระบุว่าถูกปลด และกรณีมีผู้ร้องให้ กกต. ตรวจสอบเพื่อยุบพรรค
โดย นพ.ชลน่าน แถลงว่า พล.อ. พัลลภ ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ โดยเป็นสมาชิกตลอดชีพ ไม่ได้ถูกปลด และไม่ได้ถูกลบชื่อออกจากที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยที่จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากการประชุมไม่ได้เชิญสมาชิกอาวุโสหลายท่านเพราะมีความสุ่มเสี่ยงในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด ไม่เฉพาะ พล.อ. พัลลภ เท่านั้นที่พรรคไม่ได้เชิญประชุม
นพ.ชลน่านกล่าวด้วยว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคมีความเคารพและมีความตั้งใจจะไปกราบ พล.อ. พัลลภ เรียนชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อขอให้ท่านเข้ามามีบทบาทในฐานะเป็นผู้อาวุโส ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเหตุจากท่านได้รับรายงานว่าถูกลบชื่อออก ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า เป็นไปไม่ได้ที่ทักษิณจะโทรมาสั่งให้ปลดใคร ส่วนกรณีมีคนไปร้อง กกต. ให้สอบข้อเท็จจริง โดยมีเจตนาร้องเพื่อยุบพรรคเพื่อไทยนั้น ถ้าไปร้องเท็จ พรรคเพื่อไทยจะพิจารณาว่าต้องดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ เพราะเมื่อไม่มีการปลดสมาชิกแล้วจะไปร้องว่าบุคคลภายนอกมาครอบงำชี้นำทั้งที่ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เป็นเจตนาไปร้องเท็จ ยืนยันกรรมการบริหารและพรรคเพื่อไทยไม่เคยยินยอมให้บุคคลภายนอกมาสั่งมาครอบงำให้ปลดใคร
“ผู้ร้องกลัวกฎหมายพรรคการเมือง ถ้าผู้ใดเจตนาร้องเท็จจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จำคุก 5 ปี จึงเลี่ยงว่า ขอให้ กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเข้าข่ายหรือไม่ นักร้องก็มีเหลี่ยมของเขาเยอะ แต่เจตนาทำให้เราถูกสอบ เราเดือดร้อน เจตนาจะเป็นอื่นไม่ได้ คือเจตนาไปยื่นยุบเรา เพราะกล่าวถึงบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกท่านนี้ท่านเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย การแสดงออกของท่านเหมือนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ไม่ได้มาครอบงำชี้นำ ผมเป็นหัวหน้าพรรค เราทำงานอย่างเป็นอิสระ” นพ.ชลน่านกล่าว
ขณะที่ทักษิณให้สัมภาษณ์สำนักข่าว The Room 44 ว่าไม่รู้เรื่องกรณี พล.อ. พัลลภ ระบุว่าถูกปลด ไม่ได้โทรศัพท์คุยกับ พล.อ. พัลลภ มาหลายปีแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นก็สงสัยทำไมมาโวยเช่นนี้ และยืนยันที่ผ่านมาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทย เพียงแต่พูดคุยกันในฐานะคนเคยรู้จักในเรื่องทั่วๆ ไป