วันนี้ (2 ธันวาคม) มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย พยม พรหมเพชร ส.ส. สงขลา, ศาสตรา ศรีปาน ส.ส. สงขลา, ร.ต.อ. อรุณ สวัสดี ส.ส. สงขลา และ อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส. นครศรีธรรมราช เดินทางมาแสดงความยินดีกับ ธนกร วังบุญคงชนะ ในโอกาสรับตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ ที่ห้องทำงานตึกบัญชาการ 2
ภายหลังการแสดงความยินดี ธนกรกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ส.ส. ที่มาพบวันนี้เป็นคนสนิทกัน และยังทำหน้าที่ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐอยู่ ที่มาวันนี้ก็มาชวนลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งตนต้องรอให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายงานก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีข่าวว่า ส.ส. ที่มาพบในวันนี้ได้ไปพบและพูดคุยกับนายกฯ ธนกรกล่าวว่า ปกติเจอนายกฯ อยู่แล้วหากท่านสะดวกให้เข้าพบ คุยกันตามปกติและมีการพูดคุยเรื่องการทำพื้นที่ มีการสะท้อนปัญหาให้นายกฯ ทราบตามปกติ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส. ทั้ง 4 คนคือบุคคลที่ยืนยันว่าจะไปอยู่กับนายกฯ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ ธนกรกล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง
จากนั้นพยมและศาสตรา 2 ใน 4 ส.ส. ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ที่มาพบวันนี้เพื่อมาให้กำลังใจรัฐมนตรีคนใหม่เท่านั้น ส่วนอนาคตทางการเมืองก็พยายามอย่างที่สุดในการรักษาพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ของตนเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแนวโน้มอนาคตทางการเมืองจะเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติกับ พล.อ. ประยุทธ์ หรือไม่ พยมและศาสตรากล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ เนื่องจากยังรอความชัดเจนในท่าทีของนายกฯ ก่อน
และผู้สื่อข่าวถามว่า ยังต้องแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยที่ทำพื้นที่การเมืองมานาน พยมกล่าวว่า เขาทำพื้นที่แต่ทิ้งช่วงไป ซึ่งผู้สมัครของทั้งสองพรรคที่จะให้ลงใหม่ยังทำพื้นที่ได้ไม่นาน โดยมีความเชื่อว่าประชาชนจะตัดสินใจว่าอะไรที่เหมาะสมที่สุด เพราะประชาชนเฝ้าดูอยู่ว่าพรรคไหนเป็นอย่างไร
ศาสตรากล่าวเสริมว่า ส่วนใหญ่ประชาชนดูที่การทำงานเป็นหลัก ประชาชนจะตรวจการบ้าน และมั่นใจว่าเราจะยังรักษาตำแหน่งของเราไว้ได้ดี ทำงานครบถ้วนทั้งในสภาและนอกสภา ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ชื่อของ พล.อ. ประยุทธ์ ยังขายได้ในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ พยมกล่าวว่า ยังขายได้และขายดี ซึ่งที่ตนไปคุยกับนายกฯ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ขณะที่ศาสตรากล่าวเสริมโดยยกตัวอย่างโพลภาคใต้ว่ายังเป็นอันดับ 1 จากที่ลงพื้นที่ทุกวัน กระแสจากประชาชนยังดีอยู่มาก
โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการพบ พล.อ. ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาสตรากล่าวว่า มีการหารือเรื่องงาน โดยเฉพาะการทำงานร่วมกันในพื้นที่
และผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายกฯ ประกาศท่าทีที่ชัดเจนจะตัดสินใจอย่างไร พยมกล่าวว่า เวลานี้บ้านเมืองผ่านวิกฤตไปแล้ว บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างสวยงามแล้ว นายกฯ จะประกาศอย่างไรก็เชื่อว่าจะทำงานอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในภาคใต้พรรคใดมีความนิยมและขายต่อประชาชนได้มากกว่ากัน พยมกล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าชื่อของพรรคพลังประชารัฐมาก่อน พรรครวมไทยสร้างชาติมาทีหลัง ยังบอกอนาคตไม่ได้ว่าชื่อของพรรคไหนจะขายได้มากกว่ากัน แต่ในใจของ ส.ส. มีอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความนิยมในมุมมองของ ส.ส. ในพื้นที่ ศาสตรากล่าวว่า ตอนนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังไม่ประกาศไปร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ เรายังไม่ทราบว่าประชาชนคิดอย่างไร แต่ตอนนี้คนรู้จักพรรคพลังประชารัฐแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากเป็นตัวบุคคลระหว่าง พล.อ. ประยุทธ์ กับพรรค อันไหนขายได้มากกว่ากัน พยมกล่าวว่า คนภาคใต้ยังให้ความเคารพนับถือและเชื่อมั่นใน พล.อ. ประยุทธ์ ว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ยกเว้นปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องใช้ความเข้าใจในภาวะที่เป็นอยู่ทั่วโลก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายกฯ ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ จะสามารถเอาชนะพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ พยมกล่าวว่า เรื่องชนะหรือไม่ชนะไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าถ้านายกฯ ไปพรรครวมไทยสร้างชาติก็จะเป็นขวัญและกำลังใจ ประชาชนแยกได้ว่าผู้นำประเทศจะเป็นใคร
