ชาวมุสลิมนับพันคนเผาทำลายโบสถ์และที่พักอาศัยของชาวคริสต์ในเมืองจารันวาลา แคว้นปัญจาบของปากีสถาน เมื่อวานนี้ (16 สิงหาคม) ตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดกรณีดูหมิ่นศาสนาและเขียนข้อความเชิงลบลงในคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งถือเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องชาวมุสลิม สร้างความโกรธแค้นให้กับผู้คนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ตำรวจรายงานว่า มีโบสถ์คริสต์อย่างน้อย 4 แห่งถูกไฟเผา ขณะที่บ้านพักอาศัยหลายหลังคาเรือนในละแวกเดียวกันกับโบสถ์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งยังมีการควบคุมตัวชาวคริสต์จำนวน 2 คน หลังพบว่ามีหน้าคัมภีร์อัลกุรอานถูกเขียนข้อความดูหมิ่นด้วยสีแดง
ตามหลักกฎหมายของปากีสถานแล้ว การดูหมิ่นศาสนาอาจได้รับการลงโทษรุนแรงถึงชีวิต แต่เบื้องต้นยังไม่เคยมีใครถูกประหารชีวิตจากกรณีดังกล่าว แต่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ามีคนจำนวนหนึ่งถูกกลุ่มผู้ประท้วงรุมประชาทัณฑ์จนเสียชีวิต หลังจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดหรือก่อเหตุอาชญากรรม
โดยประชากรส่วนใหญ่ของปากีสถานราว 96% นับถือศาสนาอิสลาม ขณะที่ราว 2% นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และอีกราว 1.3% นับถือศาสนาคริสต์
ยัสซีร์ ภัตตี หนึ่งในชาวคริสเตียนที่ต้องหนีออกจากบ้านพักของตนเองขณะเกิดเหตุ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่า พวกเขาพังประตู หน้าต่าง และเข้ามาทำลายข้าวของภายในบ้านจนหมด ขณะที่โบสถ์ก็มีไฟลุกท่วมและพวกเขาได้เผาทำลายคัมภีร์ไบเบิลของพวกเราด้วย
ทางด้านอามีร์ มีร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแคว้นปัญจาบ ประณามเหตุดูหมิ่นศาสนาที่เกิดขึ้น พร้อมกับสั่งให้ตำรวจหลายพันนายเข้าพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ เป็นเหตุให้มีผู้คนจำนวนหนึ่งถูกจับกุมตัว
ขณะที่อันวาร์ อัล ฮักกาการ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่ก้าวขึ้นมารักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปากีสถาน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมานี้ ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐนำตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุใช้ความรุนแรงมารับโทษทางกฎหมายโดยเร็ว
ส่วน อาซัด มาร์แชลล์ บิชอปชาวปากีสถานที่อาศัยอยู่ในเมืองละฮอร์ ระบุว่า ชุมชนชาวคริสต์เจ็บปวดและเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เราร้องขอความยุติธรรมและการปฏิบัติตามหลักกฎหมายจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า เพื่อความปลอดภัยของพลเมืองทุกคน จำเป็นที่จะต้องมีการแทรกแซงและควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงนี้ในทันที เพื่อสร้างหลักประกันว่าชีวิตของพวกเราทุกคนต่างล้วนมีคุณค่าบนพื้นแผ่นดินของประเทศเรา
กระแสความไม่พอใจเกี่ยวกับการพิพาทและดูหมิ่นระหว่างศาสนาเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะเหตุเผาคัมภีร์อัลกุรอานในประเทศแถบยุโรป ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับพี่น้องมุสลิมที่กระจายตัวอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ของโลก
ภาพ: Reuters
อ้างอิง: