ผลสอบจากกองบัญชาการกองทัพไทย กรณีการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ออกมาแล้ว
วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวชื่อดังสายทหาร ได้เขียนรายละเอียดของผลสอบลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กรณีการเสียชีวิตของน้องเมยมาจากปัญหาสุขภาพที่มีหลายสาเหตุทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยผลสอบของกองบัญชาการกองทัพไทยยืนยันว่าไม่ใช่เพราะถูกซ่อมจนเสียชีวิต โดยมีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องรวม 41 คน ตั้งแต่นักเรียนเตรียมทหารที่เป็นเพื่อนและรุ่นพี่ เจ้าหน้าที่ ผู้เห็นเหตุการณ์ ครู นักเรียนบังคับบัญชา ทหารปกครอง ทหารเสนารักษ์ กองแพทย์
ประกอบกับประวัติการรักษาทางการแพทย์ที่พบว่าผู้เสียชีวิตเข้าห้องพยาบาลบ่อยๆ ไม่ค่อยแข็งแรง ป่วยบ่อย กรณีหกล้มตรงบันไดนั้นมีภาพวงจรปิดยืนยันว่าเกิดขึ้นขณะกำลังจะไปเรียนวิชาพลศึกษา ไม่ได้เกิดจากการถูกซ่อมแต่อย่างใด อีกทั้งก่อนเสียชีวิต 2 วัน น้องเมยอยู่แต่ในห้องพยาบาล
สำหรับนักเรียนบังคับบัญชาที่เคยสั่งซ่อมน้องเมยเมื่อเดือนสิงหาคมด้วยท่าปักหัวโหม่งโลก ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งนักเรียนบังคับบัญชาและถูกลงโทษไปแล้ว
คณะกรรมการฯ ชุดที่มีพลอากาศเอก ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร เป็นประธาน จึงสรุปผลว่าน้องเมยน่าจะเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพร่างกายของตนเองที่ไม่แข็งแรง ประกอบกับอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและอาการอื่นประกอบด้วย ซึ่งตรงกับผลการสอบสวนก่อนหน้านี้ของโรงเรียนเตรียมทหาร โดยมีแพทย์ยืนยัน
ขณะที่มติชนออนไลน์รายงานว่า กรณีผลสอบที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ พลอากาศเอก ชวรัตน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เปิดเผยว่า ผลสอบคืบหน้าไปประมาณ 90% แต่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งไม่ทราบว่ามีการนำเสนอข่าวออกไปเช่นนั้นได้อย่างไร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ (13 ธ.ค.) และจะสรุปให้เป็นรูปเล่มที่สมบูรณ์ในวันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) พร้อมทั้งนำเรียนผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ด้านพลตำรวจตรี วัฒนา ยี่จีน รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก เปิดเผยภายหลังการประชุมชุดคลี่คลายคดีว่า ชุดสืบสวนเตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องกับการชันสูตรศพนายภคพงศ์ หรือน้องเมย ในครั้งแรกมาให้ปากคำเพื่อให้ทราบถึงสาเหตุที่ผลการชันสูตรในครั้งแรกระบุเพียงเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันเท่านั้น
ขณะที่การขอตรวจที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบพยานวัตถุและพยานบุคคลจากโรงเรียนเตรียมทหารนั้นก็ยังไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด
ล่าสุดวันเดียวกันนี้ คนใกล้ชิดกับครอบครัวของน้องเมยได้เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ว่า เบื้องต้นทางครอบครัวของน้องเมยได้ทราบผลดังกล่าวแล้ว โดยก่อนหน้านี้ก็คิดไว้แล้วว่าผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางกองบัญชาการกองทัพไทยจะออกมาในลักษณะนี้ ซึ่งทางครอบครัวจะยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ส่วนการดำเนินคดีในชั้นศาลนั้น คงต้องรอให้นางสาวสุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาวของน้องเมย ได้จัดการเรื่องเรียนให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้หลังจากวันที่ 16 ธันวาคมนี้
อ้างอิง:
