นับเป็นเวลาร่วม 1 ปีครึ่ง ตั้งแต่วันที่ไอดอลกรุ๊ป BNK48 ได้เปิดตัวสมาชิกรุ่นที่ 3 อย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 จนในที่สุดวันที่พวกเธอทั้ง 18 คนจะได้ออกมาโชว์ความสามารถที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีให้แฟนๆ ได้ทำความรู้จักก็มาถึง ภายในงานเดบิวต์ของพวกเธอในชื่อ BNK48 3rd Generation: The De3ut ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมกับการปล่อยมิวสิกวิดีโอซิงเกิลเดบิวต์ในชื่อ First Rabbit ออกมาให้ทุกคนได้ชม
THE STANDARD POP ถือโอกาสชวน ปาเอญ่า-นิพพิชฌาน์ พิพิธเดชา สมาชิกวง BNK48 รุ่นที่ 3 และหนึ่งในดับเบิลเซ็นเตอร์เพลง First Rabbit มาร่วมสำรวจ ‘รอยเท้า’ บนเส้นทางสายไอดอลของเธอ ว่าในแต่ละย่างก้าวที่เธอเลือกเดินนั้นได้มอบประสบการณ์และส่งผลต่อความคิดของเธออย่างไรบ้าง
THE STANDARD POP: ย้อนกลับไปก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกรุ่นที่ 3 มุมมองของปาเอญ่าที่มีต่อ BNK48 เป็นแบบไหน
ปาเอญ่า: ส่วนตัวแล้วหนูเป็นคนที่ชอบและชื่นชม BNK48 มาก่อนอยู่แล้วค่ะ รู้สึกว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจให้หนูในหลายๆ อย่าง เวลาที่หนูดาวน์เขาก็จะเป็นคนที่ฉุดหนูขึ้นมา หนูรู้สึกว่ามัน Amazing มากกับการที่เราแค่เห็นเขาเต้น ร้อง หรือว่าทำกิจกรรมต่างๆ แต่เขาก็ทำให้เรามีความสุขขึ้น แล้วก็หายเศร้าได้ค่ะ
THE STANDARD POP: เฌอปราง (เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวง BNK48) ในบทบาทของการเป็นโปรดิวเซอร์ Trainee Stage Ganbare! Kenkyuusei เป็นอย่างไรบ้าง
ปาเอญ่า: เขาเป็นคนที่วางตำแหน่งพวกหนูทุกคนว่าคนนี้อยู่ตรงไหน แล้วก็เป็นคนวางบล็อกกิ้งในหลายๆ เพลง คือสเตจของเราก็จะมีหลายยูนิตใช่ไหมคะ เขาก็จะเป็นคนวางบล็อกทั้งหมด เพราะว่าเพลงยูนิตมันไม่ได้มีบล็อกออริจินัลมาจากญี่ปุ่นอยู่แล้ว แล้วสเตจ Trainee จะมี 2 เวอร์ชัน คือ เวอร์ชัน 16 คน กับเวอร์ชัน 9 คน ซึ่งเวอร์ชัน 9 คนพี่เฌอก็เป็นคนเขียนบล็อกทั้งหมดเลย เพราะมันไม่มีเวอร์ชันออริจินัลจากญี่ปุ่นเหมือนกัน
หนูรู้สึกยกย่องเขามาก คือเขามีงานเยอะมากๆ ที่เขาต้องทำ เป็นกัปตัน เป็นนักแสดง เขาตื่นเช้าไปถ่ายงาน ถ่ายซีรีส์ ถ่ายละครของเขา มีซ้อม BIII ของเขา แล้วก็มีหน้าที่กัปตันที่เขาทำ เขาก็ยังมีเวลาเข้ามานั่งเขียนบล็อกให้เรา หรือว่าบางทีที่เขาทำงานมาเหนื่อยๆ ซึ่งพวกหนูก็มักจะซ้อมกันช่วงดึกใช่ไหมคะ เขาก็จะเดินมาที่ห้องซ้อม คือเขาเลือกที่จะขึ้นไปนอนบนห้อง ใช้เวลาส่วนตัวของเขาก็ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะมาดูพวกหนูเต้น มาแนะนำพวกหนู เหมือนเขาอยากทำให้อนาคตของ BNK48 ของรุ่น 3 ให้ออกมาดีที่สุด หนูเลยรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและขยันมากๆ ค่ะ
THE STANDARD POP: ระหว่างการแสดงของรุ่น 3 ที่งาน BNK48 Janken Tournament 2020 กับการแสดงที่งานเดบิวต์ 3rd Generation: The De3ut ความรู้สึกของปาเอญ่าแตกต่างไปจากเดิมไหม
ปาเอญ่า: ในงาน Janken เราใหม่มากๆ ค่ะ เราเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ยังฝึกได้ไม่มากพอ ก็เลยรู้สึกตื่นเต้น แล้วก็รู้สึกว่าเรายังทำได้ไม่ดีมาก
แต่ว่าพอเป็นงานเดบิวต์เราซ้อมมาเยอะมากๆ เราได้ขึ้นสเตจมาหนูว่ามีเกิน 50 รอบแน่นอน มันทำให้เราได้สัมผัสกับแฟนคลับจากที่เล็กๆ อย่างเธียเตอร์ เราได้ลองอะไรใหม่ๆ ลองไลน์เต้นหรือว่าลองทำเพอร์ฟอร์แมนซ์ต่างๆ ลองใช้สายตาดึงดูดแฟนคลับ เราได้ลองทุกอย่างที่ควรจะลอง ที่จะทำให้เพอร์ฟอร์แมนซ์ของเราออกมาดีขึ้น มันทำให้เรารู้สึกชินกับเวทีมากขึ้น
พอถึงวันเดบิวต์จริงๆ ก็ไม่ค่อยมีใครที่รู้สึกกลัวที่จะทำ หรือว่าตื่นเต้นเท่างาน Janken ค่ะ ทุกคนรู้สึกสบายใจ แล้วก็รู้สึกไม่ได้กลัวขนาดนั้นกับเพื่อนๆ ที่จะทำ หรือว่ากลัวจะทำพลาด ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่อะไรที่ใหม่แล้ว มันคือความคุ้นชินของเรา เราแค่เปลี่ยนสถานที่ มันคือที่เดบิวต์ของเรา
THE STANDARD POP: เนื้อเพลง First Rabbit ท่อนไหนที่นิยามตัวตนของปาเอญ่าได้ดีที่สุด
ปาเอญ่า: เป็นท่อนที่หนูชอบที่สุดแล้วกันค่ะ ท่อนที่ร้องว่า “แค่ให้รอยเท้าเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหลือทิ้งไว้” หนูรู้สึกว่ามันเป็นประโยคสั้นๆ ที่มันสามารถ Express ได้หลายอย่างมาก ถ้าสำหรับหนูก็คือไม่ว่าจะทำอะไรก็อย่าจมอยู่กับอดีต ซึ่งหนูค่อนข้างเป็นคนที่จมอยู่กับอดีตพอสมควร ก็เลยคิดว่าเราต้องก้าวต่อไป มันจะอยู่กับที่หรือว่าไปข้างหลังไม่ได้ แค่ให้รอยเท้ามันเป็นแค่สิ่งเดียวที่เราทิ้งไว้กับอดีตเหล่านั้นก็พอ
THE STANDARD POP: การที่ปาเอญ่าได้มารู้จักกับเพื่อนๆ รุ่น 3 ได้มาซ้อมด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน สิ่งเหล่านี้มันส่งผลต่อความคิดหรือความรู้สึกของเราอย่างไรบ้าง
ปาเอญ่า: ปกติแล้วหนูเป็นคนที่ชอบอยู่นิ่งๆ เงียบๆ คนเดียว ไม่ค่อยมีอารมณ์ขันกับใครเท่าไหร่ เหมือนพอเขาเข้ามาก็รู้สึกว่าเขาเป็นสีสันให้กับชีวิตของหนูมากขึ้น หนูเป็นคนที่อาจจะหัวเราะเยอะขึ้นหรือว่ายิ้มเยอะขึ้น หนูรู้สึกว่าเขาเข้ามาเติมเต็มตรงนั้น แล้วก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์มันลึกซึ้งมากๆ จนหนูเคยมานั่งคิดจริงๆ ว่าถ้าหนูไม่มีพวกเขาแล้วมันจะเป็นอย่างไร ก็เลยรู้สึกว่า…ไม่ได้
ภาพ: paeyah.bnk48official / Instagram
THE STANDARD POP: มีเรื่องอะไรบ้างที่ปาเอญ่าอยากบอกกับ ฮูพ (ฮูพ-ปาฏลี ประเสริฐธีระชัย) ที่ได้รับตำแหน่งดับเบิลเซ็นเตอร์ร่วมกันในเพลง First Rabbit
ปาเอญ่า: หนูรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้มาสนิทกับพี่ฮูพ หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงสนิทกับพี่ฮูพได้เป็นคนแรก เพราะส่วนตัวหนูค่อนข้างเป็นคนที่สนิทกับใครยาก หนูรู้สึกว่าเราซิงก์กันในหลายๆ เรื่อง มีความชอบหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน
หนูอยากจะขอบคุณที่เขาคิดว่าหนูเป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของเขา ซึ่งหนูไม่เคยพูดคำนี้เลย แต่หนูก็คิดว่าเขาเป็นเหมือนพี่สาวแท้ๆ ของหนูเหมือนกัน หนูรู้สึกดีใจและโชคดีมากๆ ที่ได้มาสนิทกับเขาค่ะ
ภาพ: paeyah.bnk48official / Instagram
THE STANDARD POP: ถ้าให้ลองนิยามตัวตนของ BNK48 รุ่น 3 ให้ทุกคนได้รู้จักในหนึ่งประโยค ปาเอญ่าจะนิยามว่า…
ปาเอญ่า: All-Rounder ก็ได้ค่ะ หนูรู้สึกว่ารุ่น 3 ทุกคนมีความเก่งในแบบของเขา ยกตัวอย่างเช่น Vocal ของรุ่น 3 ที่โดดเด่นขึ้นมาก็จะมีพี่ข้าวฟ่าง (ข้าวฟ่าง-ญาณิศา เมืองคำ) หรือว่าพี่อีฟ (อีฟ-อิสรีย์ ทวีกุลพาณิชย์), พี่เอิร์น (เอิร์น-วชิราพร พัฒนพานิช), พี่เอิร์ธ (เอิร์ธ-นภสรณ์ ศิริปาณี) หนูชอบ Vocal เขามาก และหลายๆ คนก็ชมว่า Vocal ของเขาดีมากๆ ซึ่งนอกจาก 4 คนนี้ทุกๆ คนก็ทำได้ดีเหมือนกัน
ส่วนเรื่องเต้นที่โดดเด่นมากๆ ก็จะมีน้องมีน (มีน-ณัฐธันยา ดุลยพล) หรือว่าโมเน่ต์ (โมเน่ต์-ภาริตา ริเริ่มกุล), พี่ฮูพ แล้วก็คนอื่นๆ ที่ไม่ได้พูดถึงก็มีการพัฒนาเรื่องการร้องการเต้นได้ดีเหมือนกัน หรือว่าเรื่องของการเอ็นเตอร์เทนก็มีคนที่เอ็นเตอร์เทนเก่งมากๆ หรือว่า MC ดีมากๆ มันมีครบทุกอย่างที่ทุกคนต้องการ ก็สามารถมาติดตามกันได้นะคะ
ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา