วันนี้ (30 มิถุนายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบปะและมอบโอวาทคณะโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 14 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีกล่าวกับเยาวชนว่า เมื่อสักครู่ได้กระซิบบอกน้องๆ ว่าเวลาออกมาพูดข้างหน้าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นจริงๆ โดยเฉพาะการใช้ภาษาที่ไม่ถนัด เช่น ถ้าถนัดภาษาอังกฤษแล้วพูดภาษาไทยก็จะตื่นเต้น ส่วนตัวมองว่าเก่งมากๆ ที่ได้ออกมาพูดข้างหน้าแบบนี้ เป็นประวัติที่เราสามารถเล่าได้ว่าวันหนึ่งเรามาที่ทำเนียบรัฐบาล และได้ทักทายพูดกับนายกรัฐมนตรี ต้องขอชื่นชม
นายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า ยินดีต้อนรับน้องๆ ทุกคนที่มาที่นี่ โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ดีมากๆ อย่างไรก็ตามทุกคนที่นี่เป็นคนไทย การที่ได้ไปเรียนต่างประเทศก็คือโอกาสที่ดีมากๆ และการได้เรียนรู้วัฒนธรรมไปด้วยก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะคนไทยคือซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย
ที่สำคัญของคนไทย เป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือ เฟรนด์ลี คนไทยเป็นแบบนั้น เป็นพื้นฐานนิสัย อาจจะได้ภาษาไทยไม่มาก แต่เราก็โตมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นคนไทย รายล้อมด้วยคนไทย คือ ซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญ และส่วนตัวเชื่อว่าชาวต่างชาติก็จะหลงเสน่ห์คนไทยแบบนี้ เพราะคนไทยมีบุคลิกที่อบอุ่น เป็นมิตร
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า โครงการนี้ใช้เวลาประมาณ 10 กว่าวัน ในการเดินทางไปจังหวัดต่างๆ จะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ได้รู้ว่าเขามีการทำอาชีพอะไร และหาเลี้ยงชีพอย่างไร พร้อมยกตัวอย่างการลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ไปดูเรื่องน้ำท่วม ทำให้เห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย การจัดการน้ำต้องเป็นไปอย่างเป็นระบบ ซึ่งก็พยายามทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า การที่ได้เดินทางมาในครั้งนี้ถือว่าได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทยที่อยู่ในประเทศไทยและต่างแดน ไปอยู่ต่างประเทศก็รู้พื้นฐาน รากฐานของวัฒนธรรมไทยด้วย ขอให้ช่วยกันนำซอฟต์พาวเวอร์ของไทยไปให้ทั่วโลกได้รู้จัก ให้เขาชื่นชมผ่านตัวคนไทย
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ตัวพี่เองมีลูกและพอลูกเรียนอินเตอร์ก็มีความกังวลว่าจะได้วัฒนธรรมไทยหรือไม่ แต่เห็นน้องๆ ที่มาน่ารักและอ่อนโยน ทำให้สบายใจได้ว่าถึงจะอยู่ที่ไหนก็มีความเป็นไทยติดตัวไปด้วย ยินดีต้อนรับทุกท่าน พร้อมสนับสนุนให้เด็กไทยไปเรียนเมืองนอก ทั้งนี้เมื่อได้มีโอกาสกลับมาเรียนรู้ชีวิตพื้นฐานของคนไทยจริงๆ ขอให้มีทริปที่สนุกสนาน ได้ความรู้ ได้เพื่อนใหม่ๆ และได้ประสบการณ์ที่สามารถนำไปต่อยอดในชีวิตของน้องๆ และถ้าวันหนึ่งกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ กลับมาอยู่ที่ประเทศไทย ก็ช่วยกันพัฒนาประเทศทำให้ประเทศของเรามีแนวคิดสร้างสรรค์ ไอเดียใหม่ๆ จากรอบโลกมาที่ประเทศไทยเยอะๆ บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับเสมอ
