วันนี้ (26 มีนาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมรัฐสภาด้วยคะแนนเสียง 319 ต่อ 162 เสียง ว่า ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจ ซึ่งตนก็ดีใจ เพราะตอนแรกไม่แน่ใจว่าพิธีการเป็นอย่างไร เพราะถือเป็นครั้งแรกที่เข้าไป พอประธานสภาฯพูดจบ เสียบบัตรเลขก็ขึ้นจอเลย ทีแรกจึงไม่แน่ใจว่าเลขที่จอใช่ผลหรือไม่เพราะเร็วมากๆ
นายกรัฐมนตรียังมองว่าสิ่งที่ตนและรัฐมนตรีได้ตอบในสภาครบถ้วนหมดแล้ว แต่มีบางอย่างคิดว่าทีมงานจะต้องทำเอกสารเพื่อเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียให้คนที่ไม่ได้ติดตามการอภิปรายสามารถดูข้อมูลได้
ส่วนกรณีที่เสียงรัฐบาลท่วมท้นอยู่แล้ว เหตุใดจะต้องพึ่งเสียงจาก สส. งูเห่า ด้วย นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่ได้พึ่งเลย แต่ต้องมานั่งดูอีกทีว่าจากที่ไหนอะไรและอย่างไรบ้าง พร้อมยืนยันว่าไม่ต้องการให้มีภาพของงูเห่าเกิดขึ้น แต่ก็ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงอยู่ดี เพราะก่อนหน้านี้ได้คุยกันเรื่องคะแนนโหวตกับพรรคร่วมรัฐบาล และเห็นว่าแค่พรรคร่วมรัฐบาลก็เพียงพออยู่แล้ว สำหรับกรณีที่มี สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ 4 เสียงโหวตไม่ไว้วางใจนั้นไม่มีติดใจอะไรทั้งนั้น
ส่วน สส. งูเห่า 7 เสียงที่โหวตสนับสนุนจะต้องตอบแทนอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ทราบว่างูเห่ามาจากไหนและใครคืองูเห่าบ้าง ก่อนจะย้อนถามสื่อมวลชนว่าทราบหรือยัง สื่อมวลชนจึงตอบกลับว่ามีทั้งพรรคไทยสร้างไทยและพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า “ไม่มี ไม่ได้คุยอะไรกันไว้ก่อนเลยด้วยความสัตย์จริงอย่างที่สุด ไม่ได้คุยอะไรกันไว้ก่อน เพราะฉะนั้นไม่ทราบว่าต้องให้อะไร“
ส่วนจะมีการนำมาต่อรองเก้าอี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่มีการต่อรองอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น เพราะอำนาจในการปรับครม.เป็นของนายกรัฐมนตรี
ส่วนจะโฟกัสการทำงานหลังจากนี้ต่อไปอย่างไร เพราะได้คะแนนโหวตท่วมท้นขนาดนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะเดินหน้าทำงานต่อไปอย่างเต็มที่เวลานัดเจอกับพรรคร่วมรัฐบาล เราก็พูดคุยกันชัดเจนทุกเรื่อง เพราะเป็นสไตล์การทำงานของตนอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรก็บอกกับพรรคร่วมตรงๆ ว่าอันไหนใช่และไม่ใช่ หรือแบบไหนที่เราต้องการและไม่ต้องการ เพราะอย่างที่บอกว่าตนเป็นนายกฯ Gen Y
ส่วนจะมีการปรับ ครม. หรือไม่ นายกรัฐมนตรีย้ำว่ายังไม่มีแผนที่จะปรับ ครม. แต่หากมีใครไปวิ่งเต้นผ่าน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องฟังหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตนรับฟังอยู่แล้วทุกเรื่อง ซึ่งตนคิดว่าทุกคนถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องมีการวิ่งทุกช่องทางไม่ใช่เรื่องใหม่ จึงขอให้ดูกันเองว่าวิ่งทางไหนแล้วเป็นผล แต่ก่อนอภิปรายรอบนี้ตนได้บอกกับทักษิณไปแล้วว่ายังไม่ได้จะปรับ ครม. ซึ่งท่านก็รับทราบ
ส่วนจะปรับหรือไม่ขอคิดอีกทีหนึ่ง เพราะเห็นว่าขณะนี้การทำงานยังราบรื่นดี ทุกคนต้องมีเวลาปรับตัวและเริ่มทำงานให้คล่องมือกันต่อไป เหมือนกับตน เพราะ ครม. นี้เป็น ครม. แรก
ส่วนจะไม่ปิดโอกาสใช่หรือไม่ หากพรรคร่วมรัฐบาลอยากปรับ ครม. นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกอย่างรับฟังไว้ก่อนได้ บางทีเราอาจจะคิดไม่ครบ ถ้าฟังและเปิดใจก็ดูว่าอะไรดีที่สุดก็แค่นั้นเอง ทุกเรื่องต้องใช้เหตุผลอยู่แล้ว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่มีการยื่นแพทยสภาให้มีการตรวจสอบประเด็นการรักษาตัวของทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ว่ากำลังรอผลอยู่ ไม่แน่ใจไทม์ไลน์ว่าจะได้เมื่อใด ขณะเดียวกันก็ต้องดูด้วยว่าเปิดเผยได้หรือไม่ ถ้าเปิดเผยได้ก็จะเปิดเผย
พร้อมฝากข้อความถึงประชาชนว่า ขอบคุณที่ติดตามการอภิปรายและการชี้แจงทั้งของฝ่ายค้านและรัฐบาล ตนพยายามชี้แจงข้อมูลให้พี่น้องประชาชนได้มากที่สุด เพื่อจะได้เกิดความโปร่งใส และตอบทุกข้อสงสัย ยืนยันทำเต็มที่ไว้ติดตามผลงานกันต่อไป เรื่องนโยบายเราเร่งเต็มที่อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรีได้แวะไปซื้อมัทฉะลาเต้ ขนมปังโรยหน้าเนยน้ำตาลที่ห้องอาหารบริเวณชั้น 1 ของอาคารรัฐสภาฝั่งสส. พร้อมสั่งกุยช่ายทอด และข้าวขาหมู เพื่อไปรับประทานในช่วงบ่าย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ได้เสียงไว้วางใจถึง 319 เสียง ทำให้รู้สึกใจฟูหรือไม่ ทำให้นายกรัฐมนตรีทวนคำถามนักข่าวว่า “แซวว่าได้ 319 ใจฟู” ก่อนยอมรับว่าตนรู้สึกดี