วันนี้ (30 มิถุนายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวนั่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมในการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ว่า อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ แต่ว่าที่ดูกระทรวงวัฒนธรรมด้วย เพราะเป็นเรื่องของ Soft Power และอยากให้รู้ว่ากระทรวงวัฒนธรรมไม่ได้เป็นกระทรวงเกรดบี เกรดซี แต่เป็นกระทรวงที่สำคัญมากๆ ที่จะสามารถแนะนำวัฒนธรรมของไทยส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ได้จริงๆ
ส่วนที่นั่งควบรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ไม่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญอาจจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แต่ต้องเน้นเรื่องของ Soft Power เพราะวัฒนธรรมของไทยเข้มข้นมากและมีที่น่าผลักดันอีกจำนวนมาก ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะมีบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งหรือไม่ ขอให้รอดู ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการแล้ว จะเห็นชื่อทั้งหมด
ส่วนกรณี 36 วุฒิสภาเข้าชื่อยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ซึ่งจะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (1 กรกฎาคม) และอาจจะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องปล่อยเป็นไปตามกระบวนการ แต่ส่วนตัวยอมรับว่ามีความกังวล
ผู้สื่อข่าวถามว่า เตรียมตัวอย่างไรหากผลออกมาเป็นลบ นายกรัฐมนตรีระบุว่า พยายามเน้นเรื่องการทำงาน ไม่อยากให้สะดุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา เรื่องการเจรจากับต่างประเทศ มีรายละเอียดค่อนข้างมาก ดังนั้น ไม่อยากสะดุดในเรื่องนี้ อยากทำให้มันดี
ส่วนกรณีผลสำรวจของนิด้าโพลที่คะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยลดลง ยืนยันว่าผลโพลจากทุกสำนักเป็นประโยชน์อยู่แล้ว เวลาผลโพลมาดีเราก็กำลังใจดี หากไม่ดีก็ทำให้ต้องเตือนใจว่าต้องสู้ต่อและต้องทำงานให้เต็มที่ ต้องแสดงผลงานให้ชัดเจนและต้องสื่อสารกับประชาชนให้ดียิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องรับฟังอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโพลสำนักไหนก็ตาม
เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังปกป้องอธิปไตย นายกรัฐมนตรีระบุว่า อย่างที่บอกไปอยู่ในกรอบที่ไม่ทำผิดกฎหมาย อยู่ในสันติวิธี เป็นสิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว ถ้าไม่มีเรื่องความรุนแรงหรืออะไรก็ถือเป็นสิทธิ คิดว่าไม่ได้มีอะไร ส่วนตัวเองจะโฟกัสเป็นเรื่องๆ ความจริงทุกคนมีสิทธิแสดงออก ส่วนตัวก็เน้นเรื่องการทำงานและเรื่องที่ถืออยู่ตอนนี้ไม่สามารถรอได้สักเรื่อง ต้องมุ่งเน้นที่จะทำงานทุกเรื่องให้สำเร็จและให้จบต่อเนื่อง
ยังไม่ประเมินตัวเลขกำแพงภาษีสหรัฐฯ
แพทองธารยังกล่าวถึงการให้แนวทางกับ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำทีมไทยแลนด์บินไปเจรจาเรื่องการค้าและภาษีกับสหรัฐอเมริกาว่า ในรายละเอียดมีการพูดคุยในที่ประชุมหมดแล้วว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (1 กรกฎาคม) พิชัยก็จะเดินทางไปพูดคุยและคิดว่าการเจรจารอบนี้ก็จะได้สรุปคำตอบในหลายหัวข้อ ส่วนตัวเลขกำแพงภาษีสหรัฐฯที่คาดหวังไม่ขอตอบ แต่จะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิชัยและคณะมีกำหนดการประชุมหารือกับ เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่เก็บกับไทยจาก 36% ให้เหลือต่ำที่สุด
ขออย่าเพิ่งคาดการณ์ ‘แพทองธาร’ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
ขณะที่ สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมรับมือกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องถอดถอนนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (1 กรกฎาคม) ว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ ยอมรับว่านายกฯเป็นกังวล ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้จัดเตรียมมอนิเตอร์ แต่ไม่ได้อยากตีความอะไรไว้ก่อนล่วงหน้า ยืนยันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนายกฯก็แสดงถึงความตั้งใจในการทำงาน
ส่วนหากศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายใครจะเป็นผู้รับช่วงต่อ สรวงศ์กล่าวว่า อย่าเพิ่งสมมติ ซึ่งตามคำร้องก็สามารถชี้แจงได้และเป็นไปตามที่ยืนยันมาตลอดถึงความบริสุทธิ์ใจในการพูดคุย ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็รู้กันอยู่ และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบกับประเทศเขาหนักหนาขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวมองว่าถ้ายื่นมาในกระบวนการของวุฒิสภา ถึงอย่างไรศาลก็ต้องรับ เป็นการรับตามกระบวนการ ส่วนจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่อย่าเพิ่งคาดการณ์
สรวงศ์ระบุด้วยว่าไม่ทราบข่าวกรณี สส. อีสาน ของพรรคเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหวอยากจะได้เก้าอี้รองประธานสภาคนที่ 2 แต่ยอมรับว่าตอนนี้มี สส. อีสาน ส่งรายชื่อมาให้ แสดงเจตจำนงว่า อยากจะดำรงตำแหน่ง ซึ่งต้องดูตามโควตา ดูความเหมาะสม เพราะอาจจะต้องเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 2 ในพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมยืนยันว่าตอนนี้ไม่มีการที่จะสลับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร