วันนี้ (7 มกราคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เคยบอกว่าไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะเรียกรัฐมนตรีหลายคนเข้ามาคุยผลงานในรอบ 3 เดือนว่า เป็นแผนที่ตนอยากคุยตั้งแต่เริ่มเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อมีงานหลายอย่างเข้ามาก็ต้องแยกให้ออกว่ากระทรวงต่างๆ รับผิดชอบอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้เป็นรูปเป็นร่างอย่างเต็มที่
“การเชิญรัฐมนตรีเข้ามาคุยได้แจ้งทุกท่านตั้งแต่ปีที่แล้ว เรื่องนี้รัฐมนตรีไม่ตกใจแน่นอน เรียกเข้ามาพูดคุย เพราะต้องการอัปเดตว่าสถานการณ์การทำงานเป็นอย่างไร ดิฉันกระจายงานให้รองนายกฯ แต่ละท่าน แต่ที่อยากเรียกรัฐมนตรีมาคุยจะได้ทราบว่าคนที่อยู่หน้างานทำอะไรอย่างจริงจัง และจัดเวลา เพื่อให้รัฐมนตรีนำเสนอ พูดคุย ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน จะทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากกว่า และภายในเดือนนี้ก็จะเชิญมาคุยอีก 2 กระทรวง”
ส่วนที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดว่าจะมีการเรียกรัฐมนตรีเข้ามาพูดคุยและอาจจะปรับ ครม. นั้น นายกฯ กล่าวว่า ที่ท่านทักษิณพูด ตนคิดว่าเป็นสไตล์ของท่าน ไม่เหมือนกับตน คนละแบบ
เมื่อถามว่า สไตล์การทำงานของนายกฯ แตกต่างจากทักษิณอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนเป็นคนคุยก่อนและคุยตรงๆ ว่าอยากให้เกิดสิ่งนี้ ส่วนกลางจะสามารถสนับสนุนอะไรได้บ้าง หากเป็นการละเลยไม่สนใจการทำงานก็จะเห็นเจตนา แต่ถ้าเป็นการทำงานตามขั้นตอนก็ต้องสนับสนุน เพราะความมีเสถียรภาพทำให้งานเกิดไม่ว่าจะในกระทรวงหรือในรัฐบาล การงานก็จะต่อเนื่อง ยืนยันว่ายังไม่มีแผนปรับ ครม. ตอนนี้ยังไม่คิด ทุกอย่างต้องดูจากผลงาน
เมื่อถามว่า เวลาที่ทักษิณขึ้นปราศรัยเรื่องนโยบาย เป็นการนำหน้าการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ดิฉันเข้าใจว่าทุกคนพูดว่า นายกฯ ตัวจริง ที่ว่ามีหลายนายกฯ ทุกอย่างที่ผ่านมาต่างตรงที่ดิฉันเป็นลูก ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับท่าน ดิฉันโตขึ้นมาในบ้านที่ทักษิณเป็นหัวหน้าครอบครัว การที่ท่านพูดและนำมาประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตก็เป็นสิ่งดี และดิฉันมองทุกอย่างว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน นักวิชาการ หรือรัฐมนตรี ที่พูดอะไรที่เป็นประโยชน์ควรจะนำมาใช้”
นายกฯ กล่าวอีกว่า เราจะไม่รับฟังคนที่ไม่ชอบเราก็คงไม่ได้ อย่างคุณพ่อเคยเป็นนายกฯ มาก่อนและประสบความสำเร็จอย่างมาก ตนรับฟังได้อยู่แล้ว อะไรที่รู้สึกไม่แฮปปี้ สื่อมวลชนไม่ต้องลุ้น หลังไมค์กันแล้วแน่นอน คิดง่ายๆ ว่าคนในครอบครัวคุยกันอย่างไร ส่วนตัวก็เป็นแบบนั้น
ส่วนการพูดของทักษิณทำให้ใครหลายคนมองว่าเป็นนายกฯ ตัวจริงหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า คุยหลังบ้านแล้วและกำชับว่าการสัมภาษณ์ของตนแค่เลิกประชุม ครม. วันอังคารเท่านั้น การที่ทักษิณไปพูดก็ไม่เป็นไร เพราะประโยชน์อยู่ที่ประเทศ ตนไม่ได้รับผลกระทบอะไร และที่พูดว่ามีนายกฯ 2-3 คน ตนไม่เสียใจ
เมื่อถามว่า พ่อเป็นฝ่ายบู๊ ลูกเป็นฝ่ายประนีประนอมใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่พ่อพูดหลายอย่างไม่ได้เกิดขึ้น ต้องผ่านมติ ครม. ผ่านมติพรรค ผ่านมติหลายๆ อย่าง คุณพ่อเป็นคนมีวิสัยทัศน์ หากจะนำมาปฏิบัติก็อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ต้องแยกให้ชัดเจน บางเรื่องไม่ได้กระทบทั้งหมด
ส่วน 3 เดือนนี้ยังไม่มีใครที่ไม่ผ่านงานหรือว่าดื้อหรือไม่ นายกฯ หัวเราะพร้อมชี้มือไปที่อนุทินว่า “มีแต่น่ารัก ไม่มีดื้อ สรุปนายกฯ ดื้อสุด”