ราคาหุ้นของธนาคาร Pacific Western Bank หรือ PacWest ดิ่งลงกว่า 50% ในการซื้อขายวันนี้ (4 พฤษภาคม) หลังจากชื่อของแบงก์ขนาดกลางในแคลิฟอร์เนียแห่งนี้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินและอาจประสบปัญหาต่อจาก Silicon Valley Bank, Signature Bank และ First Republic Bank
แหล่งข่าวสองรายเปิดเผยกับ Financial Times ว่า PacWest แต่งตั้งให้ Piper Sandler ธนาคารที่มีชื่อเสียงด้านวาณิชธนกิจช่วยสำรวจทางเลือกเชิงกลยุทธ์ให้กับตัวเอง รวมถึงการขายกิจการหรือการระดมทุนใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
การตัดสินใจในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (FDIC) ของสหรัฐฯ เข้าควบคุมกิจการ First Republic Bank และขายพอร์ตเงินฝากและสินทรัพย์ให้กับ JPMorgan Chase เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
วันเดียวกันนี้ ราคาหุ้นของ Western Alliance ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธนาคารที่กำลังถูกจับตาว่าจะประสบกับภาวะวิกฤตก็ร่วงลงกว่า 25% ขณะที่ราคาหุ้นของ Zions Bancorp และ Comerica ก็ปรับลดลงราว 10%
เช่นเดียวกับธนาคารระดับภูมิภาคอื่นๆ PacWest เริ่มถูกจับตามองในแง่ลบจากตลาดนับตั้งแต่เกิดกรณี Silicon Valley Bank ล้มในเดือนมีนาคม เนื่องจากมีโครงสร้างทางธุรกิจที่คล้ายคลึงกับ SVB คือมีฐานลูกค้าอยู่ในกลุ่มเทค มีฐานเงินฝากที่เกิดวงเงินคุ้มครองของ FDIC สูง และมีปัญหาขาดทุนจากการต้องขายพันธบัตรก่อนครบกำหนดอายุเพื่อเสริมสภาพคล่อง
PacWest รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ธนาคารได้สูญเสียเงินฝากไปมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรก แต่ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสามารถดึงดูดเงินฝากเข้ามาได้ราว 1 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ปัจจุบันธนาคารมีฐานเงินฝากอยู่ราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า SVB หรือ First Republic ค่อนข้างมาก
นับจากต้นเดือนมีนาคม หุ้นของ PacWest ร่วงลงไปแล้วราว 77% โดยในไตรมาสแรกของปีธนาคารรายงานผลขาดทุนสุทธิที่ 1.21 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ธนาคารยังรายงานผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในพอร์ตหลักทรัพย์มูลค่า 860 ล้านดอลลาร์ โดยกล่าวว่า 29% ของเงินฝากในปัจจุบันไม่ได้รับการคุ้มครองจาก FDIC
ปัจจุบันมากกว่า 3 ใน 4 ของการปล่อยกู้ของ PacWest กระจุกตัวอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่เริ่มมีความน่ากังวลจากการได้รับผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
อ้างอิง: