วันนี้ (29 ตุลาคม) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า, พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จังหวัดนครปฐม เข้ารับฟังคำสั่งอัยการศาลแขวงปทุมวัน ในคดีร่วมกันชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562
ธนาธรกล่าวก่อนเข้าฟังคำสั่งว่า แม้คำสั่งศาลจะออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องของศาล แต่หากรัฐบาลคิดว่าการจับแกนนำเข้าคุกแล้วการชุมนุมจะยุติ เป็นการคิดผิด เพราะอย่างไร การชุมนุมเรียกร้อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีความเหลื่อมล้ำ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ขอให้ทุกคนอย่าท้อและอย่าหมดกำลังใจ
ธนาธรกล่าวอีกว่า ตราบใดที่รัฐบาลและ พล.อ. ประยุทธ์ ยังยืนยันไม่ลาออก และคิดว่าตนเองไม่ใช่ปัญหา ความขัดแย้งในครั้งนี้ การเรียกร้องของนักเรียนนักศึกษาก็ยังเดินหน้าต่อ
ด้านพิธากล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อความปรองดองกี่ชุดก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ส่วนพรรคก้าวไกลจะเข้าร่วมหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ ขอดูรายละเอียดก่อน ขณะที่การมาฟังคำสั่งวันนี้ มั่นใจในความบริสุทธิ์ และไม่ได้กังวลอย่างไร
ล่าสุด กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความเปิดเผยว่า อัยการศาลแขวงปทุมวันได้มีคำสั่งฟ้องทั้ง 5 คนในเหตุการณ์การชุมนุมที่สกายวอล์กเมื่อ 14 ธันวาคม 2562 ตามข้อหาที่ได้มีการแจ้ง และทุกคนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ส่วนการชุมนุมนั้นเป็นเรื่องการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมามีการดำเนินคดีลักษณะนี้กับประชาชนจำนวนมาก ซึ่งบางกรณีไม่มีลักษณะของการชุมนุม แต่ก็มีการดำเนินคดีกันเพื่อทำให้เกิดความยุ่งยาก และวันนี้ไม่ต้องมีการประกันตัว ศาลไม่ได้กำหนดเงื่อนไขอื่นใด
สำหรับข้อหาที่มีการสั่งฟ้อง คือ
- ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง
- ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงาน หรือการใช้บริการสถานีรถไฟฟ้า
- ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ
- ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ทำการชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล