การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มีการยื่นญัตติซักฟอกรัฐมนตรี รวม 10 คน โดยคิวแรกของฝ่ายค้านหนีไม่พ้นผู้นำรัฐบาลคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
การอภิปรายเข้มข้นตั้งแต่ยังไม่เริ่มเข้าสู่ญัตติ มีการหารือถึงญัตติของฝ่ายค้านที่พาดพิงถึงสถาบันฯ นำโดย ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ผู้ยื่นญัตติต่อสภาให้ตรวจสอบญัตติการซักฟอกของรัฐบาล ตามมาด้วย สิระ เจนจาคะ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศพร้อมโต้ทุกเม็ด หากมีการกล่าวอภิปรายถึงสถาบัน
ขณะที่การอ่านญัตติของผู้นำฝ่ายค้าน สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เมื่ออ่านถึงประโยคที่กล่าวถึงสถาบัน ปรากฏว่าไพบูลย์ลุกขึ้นประท้วงทันที ตามมาด้วย ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ
การอภิปรายดำเนินไปจนกระทั่งถึงคิวของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งมุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดบ่อนการพนัน ทุจริต นำไปสู่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่
การอภิปรายมีช่วงสะดุดหลายครั้ง เมื่อคู่ปรับอย่างสิระลุกขึ้นประท้วงอย่างดุเดือด พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ โดยเฉพาะประเด็นกล่าวหาว่า พรรคพลังประชารัฐ จ่ายเงินเดือนให้ ส.ส. คนละ 200,000 บาทต่อเดือน โดยมีการประท้วงขอให้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ถอนคำพูดดังกล่าว จึงเกิดการประท้วงอยู่นาน
ช่วงหนึ่งสิระกล่าวว่า “แก่แล้วยังดื้อ” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ตอบโต้ทันทีให้ว่า “นั่งลงไอ้นักโทษ” กระทั่งยอมถอนคำพูดในเวลาต่อมา
และนี่คือบรรยากาศในช่วงครึ่งวันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า