วานนี้ (30 มีนาคม) ที่ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลชุมชนบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดเวทีประชาคม ‘โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก จากบางปะกงไปโรงไฟฟ้าพระนครใต้’ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่มีแนวส่งท่อก๊าซ ซึ่งจะผ่านชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ของอำเภอบางบ่อและอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
โดยเวทีการประชาคมในครั้งนี้ นอกจากมีตัวแทนที่ดูแลการจัดทำประชาคมของ ปตท. มาเป็นวิทยากรในการบรรยายและรับฟังความคิดเห็นต่อที่ประชุมแล้ว ยังมีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบางเสาธงและอำเภอบางบ่อที่ไม่เห็นด้วยและไม่ทราบเรื่องของโครงการดังกล่าวสวมชุดดำเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย พร้อมถือป้ายคัดค้านและระบุข้อความว่าไม่เคยทราบโครงการ
หลังจากใช้เวลากว่าสองชั่วโมงในการเปิดประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็น มีตัวแทนชาวบ้านและผู้ประกอบการในพื้นที่แสดงความเห็นกังวลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเหมือนในอดีตที่เคยเกิดในพื้นที่ตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ โดยเฉพาะตัวแทนชุมชนและผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี ซึ่งอยู่ห่างจากแผนแนวท่อส่งก๊าซเพียง 500 เมตรเท่านั้น
สุชาดา นันทะพานิชสกุล ตัวแทนผู้ประกอบการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี ซึ่งมีโรงงานติดกับแนวท่อส่งก๊าซ ตั้งข้อสังเกตและความกังวลกับความปลอดภัยของคนชุมชน โดยกล่าวว่า ถึงแม้แนวส่งท่อก๊าซจะวางแนวตามสายไฟฟ้าแรงสูงก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นที่ตำบลเปร็ง ซึ่งสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก
เมื่อทราบว่าในพื้นที่จะมีการวางท่อส่งก๊าซทำให้ตนเกิดความกังวล อีกทั้งตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดถึงต้องวางท่อส่งก๊าซผ่ากลางชุมชน ซึ่งมีทั้งโรงเรียน วัด โรงงาน หมู่บ้านจำนวนมากในพื้นที่ และทำไมไม่วางท่อส่งก๊าซตามแนวป่าชายเลน ซึ่งไม่มีที่พักอาศัยและชุมชน อีกทั้งสามารถวางตรงไปยังโรงไฟฟ้าพระนครใต้ได้เช่นกัน
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านในชุมชนที่แต่งกายด้วยชุดดำออกมายืนยันว่าจะเดินหน้ารวมตัวกันออกมาต่อต้านการวางท่อส่งก๊าซ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยทราบเรื่องโครงการดังกล่าวมาก่อน มาทราบอีกทีคือจะมีเวทีประชุมในครั้งนี้ หลังจากนี้จะรวมตัวกันทุกฝ่ายของชาวบ้าน ไม่ใช่แค่หมู่บ้านตนเอง แต่ทุกหมู่บ้านทั้งในอำเภอบางเสาธง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ, อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่อยู่ในแนวท่อส่งก๊าซนี้
ด้าน อุทัย มหิทธิมหาวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนโครงการ ตัวแทน ปตท. กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการตามนโยบายของทางภาครัฐ ที่ต้องการใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการในการใช้พลังงานด้านไฟฟ้าภายในประเทศ การขนส่งทางท่อส่งก๊าซถือเป็นทางเลือกที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ถึงแม้จะเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต แต่ทาง ปตท. เองก็นำบทเรียนดังกล่าวมาพัฒนาและวางแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ไม่ว่าจะเพิ่มความลึกของการวางท่อก๊าซ เพิ่มความหนาของท่อก๊าซ และเพิ่มสถานีควบคุมแรงดันของก๊าซ
การเลือกเส้นทางของการวางแนวท่อส่งก๊าซนี้มายังจังหวัดสมุทรปราการได้มีการพิจารณามาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะเลือกเส้นทางของแนวท่อก๊าซที่กระทบต่อชุมชนน้อยที่สุด แต่จะเลี่ยงไม่ให้ผ่ากลางชุมชนนั้นคงยาก ในสิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่กังวลเรื่องความปลอดภัยของท่อก๊าซนั้น ปตท. เองตระหนักดีในเรื่องความปลอดภัยต่อชุมชน จากเวทีที่ประชุมในครั้งนี้พบว่ามีตัวแทนชาวบ้านจำนวนมากออกมาแสดงความกังวลและต่อต้านนั้น จะต้องกลับไปทบทวนแนวทางและการทำความเข้าใจด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่อีกครั้ง
สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกจากโรงไฟฟ้าบางปะกงไปยังโรงไฟฟ้าพระนครใต้ มีขนาดท่อ 36 นิ้ว ระยะทางประมาณ 57 กิโลเมตร โดยมีกำลังส่งก๊าซสูงสุดประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อนำก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในขบวนการผลิตการไฟฟ้าให้แก่โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และเพื่อความมั่นคงในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติโดยรวมของประเทศด้วยการเชื่อมโยงท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่เดิม จึงเกิดโครงการดังกล่าวขึ้นมา
