×

ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัว…โอกาสการลงทุนกลับมาหรือยัง?

21.05.2024
  • LOADING...

เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีน กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยตลาดหุ้นจีนเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและพยุงตลาดหุ้น ส่งผลให้ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจต่างๆ เริ่มเห็นการฟื้นตัว และเริ่มมี Sentiment ดีขึ้น โดยล่าสุดตลาดหุ้นจีน A-Shares (CSI 300) ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดประมาณ 15.3% ขณะที่ตลาดหุ้นจีน H-Shares (HSCEI) ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดประมาณ 34.3% (อ้างอิงจากราคาปิดตลาดหุ้นจีน เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567) ซึ่งถือว่าตลาดหุ้นจีน H-Shares กลับเข้าสู่ภาวะตลาดกระทิง (Bull Market) เป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนในรอบนี้ นักลงทุนหลายท่านอาจมีคำถามว่า การฟื้นตัวครั้งนี้เป็นของจริงหรือไม่ และโอกาสการลงทุนหุ้นจีนกลับมาแล้วหรือยัง  

 

เปิดมุมมอง 3 ปัจจัยหลัก ช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นจีนกลับมาปรับตัวฟื้นได้ในระยะสั้น 

 

อันดับแรก ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่เห็นได้จาก GDP ไตรมาส 1/67 ของจีนที่ออกมา ขยายตัว 5.3%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด ส่งผลให้นักวิเคราะห์ปรับคาดการณ์การเติบโตของ GDP จีนปีนี้เพิ่มขึ้น โดยปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนมาจากภาคการผลิตเป็นหลัก โดยล่าสุด การรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตทั้งจาก Official NBS และ Caixin ในเดือนเมษายน ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่า 50 อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงภาคการผลิตของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก-ใหญ่ว่ามีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้การส่งออกของจีนยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนจากยอดส่งออกล่าสุดของเดือนเมษายนที่กลับมาขยายตัว 

 

ทั้งนี้ การส่งออกถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน เนื่องจากเราจะเห็นว่าเศรษฐกิจจีนมีการพึ่งพาการส่งออกเพิ่มขึ้นมาก หลังจากการบริโภคภายในประเทศยังคงอ่อนแอ 

 

ปัจจัยถัดมา สัญญาณที่ดีจากการประชุม Politburo ซึ่งมีอยู่ 2 ประเด็นหลักที่มองได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจจีน นั่นคือ

 

  1. การผ่อนคลายมาตรการอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งแก้ไขปัญหาอุปทานล้นตลาด ด้วยการผ่อนคลายกฎระเบียบในการซื้อบ้าน ซึ่งจะให้แต่ละเมืองดำเนินการได้ตามความเหมาะสม เพื่อลดสินค้าคงคลัง รวมถึงเป็นการปรับสมดุลอุปสงค์-อุปทาน ทำให้ราคาบ้านมีเสถียรภาพมากขึ้น  

 

  1. มีกำหนดการประชุม 3rd Plenum หรือการประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ หลังจากรัฐบาลจีนเลื่อนการประชุมนี้มาหลายครั้งในช่วงก่อนหน้า ซึ่งจากข้อมูลในอดีตชี้ให้เห็นว่า การประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 มักจะเป็นวาระเพื่อการตัดสินใจนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญ จึงทำให้มีความคาดหวังว่าอาจมีการเปิดเผยนโยบาย หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ 

 

และปัจจัยสุดท้าย มีการออกมาตรการปฏิรูปตลาดทุน โดยเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา China Securities Regulatory Commission (CSRC) ได้เปิดเผยแนวทาง ‘9 มาตรการปฏิรูปตลาดทุน’ และมีประเด็นสำคัญ 3 เรื่องคือ การเน้นมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการ การยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน และแนวทางการมุ่งสร้างผลประโยชน์ให้นักลงทุนผ่านการจ่ายปันผลและซื้อหุ้นคืนมากขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับตลาดหุ้นจีนให้มีความโปร่งใสมากขึ้น 

 

นอกจากนั้นยังได้ประกาศ 5 มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดหุ้นฮ่องกง เช่น ผลักดันบริษัทชั้นนำให้ทำการเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหุ้นฮ่องกงมากขึ้น รวมทั้งล่าสุด มีรายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎระเบียบกำลังพิจารณาข้อเสนอที่จะยกเว้นให้นักลงทุนทั่วไปไม่ต้องจ่ายภาษีเงินปันผลที่ได้รับจากหุ้นที่ซื้อผ่านโครงการ Stock Connect ในตลาดหุ้นฮ่องกง

 

“แม้ว่าจีนจะเห็นพัฒนาการเชิงบวกมากขึ้นทั้งในด้านเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของจีน แต่ปัจจัยหนุนเหล่านี้อาจช่วยหนุนตลาดหุ้นจีนให้ปรับตัวขึ้นได้เพียงระยะสั้น เนื่องจากภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังไม่ชัดเจนว่าจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง และมาตรการสนับสนุนตลาดทุนยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลที่ชัดเจน” 

 

สำหรับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนอย่างยั่งยืนนั้น มองว่ายังคงถูกกดดันจากปัจจัยเสี่ยงในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศที่ยังไม่ค่อยกล้าจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยังคงหดตัว หรือขยายตัวในระดับต่ำ รวมทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ถึงแม้ว่าภาครัฐจะผ่อนคลายมาตรการสำหรับภาคอสังหาออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่มองว่านั่นเป็นเพียงการประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายลงกว่าเดิม และอาจต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ส่งผลต่อเนื่องไปยังกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ทำให้กำไรของตลาดหุ้นจีนยังคงถูกนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์กำไรลงต่อเนื่อง ซึ่งถ้าหากเริ่มเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการ หรือคาดการณ์กำไรถูกปรับเพิ่มขึ้น จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนที่แข็งแกร่งและชัดเจนขึ้น

 

ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเป็นโอกาสสำหรับการเก็งกำไรเป็นรอบ (Trading) ในกรอบระยะเวลาประมาณ 1-3 เดือน ด้วยปัจจัยหนุนจากภาพเศรษฐกิจจีนที่เริ่มมีสัญญาณที่ดี ประกอบกับกระแสเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นจีนต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา นับเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน อย่างไรก็ดี การลงทุนเพื่อคาดหวังการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนในระยะกลาง-ยาว อาจยังต้องติดตามสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องและมีความชัดเจนกว่านี้ เพื่อขับเคลื่อนความเชื่อมั่นของทั้งผู้บริโภคในประเทศ และหากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเริ่มส่งผลบวกต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน จนนำไปสู่การปรับประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด ก็น่าจะช่วยเสริมความมั่นใจของนักลงทุนในระยะถัดไปได้ สำหรับช่วงเวลานี้ ตลาดหุ้นจีนอาจมีความผันผวนค่อนข้างสูง การลงทุนจึงเหมาะกับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง และสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นจีน สามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งมีให้เลือกลงทุนมากมาย ทั้งกองทุนประเภท Passive Fund และ Active Fund อีกทั้งมีทางเลือกในการลงทุนได้หลากหลายตลาดทั้ง A-Shares, H-Shares และ All China 

 

หมายเหตุ:

  • ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ โทร. 0 2777 7777 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising