×

กลยุทธ์หาเสียงแฮร์ริสสู่ทำเนียบขาว เรารู้อะไรบ้างจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต

25.08.2024
  • LOADING...

การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต หรือ Democratic National Convention จบลงไปแล้วเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้รับรองให้ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อลงชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ซึ่งนอกจากพิธีการลงคะแนนโดยสมาชิกพรรคแล้ว ที่ประชุมก็ได้จัดให้มีการกล่าวสุนทรพจน์และกิจกรรมอีกมากมาย และถ่ายทอดสดออกอากาศไปทั่วประเทศเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของพรรค และเป็นการหาคะแนนเสียงให้กับแฮร์ริสไปในตัว 

 

บทความนี้จะสรุปให้ผู้อ่านได้ทราบว่า สุนทรพจน์ตลอดคืนของการประชุมใหญ่พรรคบอกอะไรเราบ้างเกี่ยวกับทิศทางของพรรค และกลยุทธ์ในการหาเสียงของแฮร์ริสในอีก 3 เดือนที่เหลือ

 


 

1. Kamala The Center-Left

 

แฮร์ริสและพรรคเดโมแครตทราบดีว่า โดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันกำลังพยายามจะโจมตีให้ชาวอเมริกันเชื่อว่าแฮร์ริสเป็นนักการเมืองแบบซ้ายจัดตามแบบฉบับของซานฟรานซิสโก รวมทั้งพยายามจะป้ายสีให้ชาวอเมริกันเชื่อว่ารัฐบาลของแฮร์ริสจะปกครองประเทศด้วยระบบสังคมนิยม

 

พรรคเดโมแครตใช้โอกาสนี้ปกป้องแฮร์ริสว่าเธอไม่ใช่ซ้ายสุดโต่งอย่างที่ทรัมป์และพรรครีพับลิกันพยายามจะกล่าวหา ที่ประชุมพยายามกล่าวเน้นถึงประวัติการทำงานที่เคยเป็นอัยการเขตเมืองซานฟรานซิสโกและอัยการสูงสุดของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยชี้ให้เห็นถึงประวัติของเธอในการต่อสู้สั่งฟ้องบรรดาอาชญากร รวมทั้งการสั่งฟ้องบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภคชาวแคลิฟอร์เนีย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ใช่นักการเมืองแบบซ้ายจัดที่อ่อนข้อกับอาชญากรและไม่ยอมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง นอกจากนั้นพรรคก็ยังจัดสรรเวลาให้ทหารและตำรวจอีกหลายคนขึ้นมาพูดบนเวที เพื่อกล่าวสนับสนุนนโยบายของแฮร์ริสเกี่ยวกับอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่เป็นอีกประเด็นหลักที่ทรัมป์ใช้โจมตีเธอ

 

นอกจากนี้แฮร์ริสยังพยายามฉายภาพให้ชาวอเมริกันเห็นว่าเธอไม่ใช่พวกซ้ายจัดแบบ Woke ด้วยการพูดถึงเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ, สิทธิของ LGBTQIA+ และการเหยียดผิวแต่น้อย ซึ่งถึงแม้ว่าเธอมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก แต่ประเด็นเรื่องความเป็นสตรีเพศของเธอกลับถูกเอามาพูดถึงน้อยมาก ซึ่งแตกต่างไปจากการประชุมในปี 2016 ที่พรรคพูดถึงเรื่องการสร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของ ฮิลลารี คลินตัน ตลอดทั้ง 4 วัน

 


 

2. “เราจะไม่เดินย้อนหลังกลับไป”

 

นอกจากการที่แฮร์ริสพยายามจะบอกว่าเธอไม่ใช่นักการเมืองซ้ายจัดแล้ว แฮร์ริสยังพยายามบอกชาวอเมริกันอีกด้วยว่าเธอจะเป็นประธานาธิบดีที่นำประเทศไปข้างหน้า ในขณะที่ทรัมป์จะเป็นผู้ที่นำประเทศไปข้างหลัง โดยเธอโจมตีทรัมป์ผ่าน Project 2025 ที่ Heritage Foundation อันเป็นเหมือนมันสมองของฝ่ายอนุรักษนิยมได้วางไว้เป็นพิมพ์เขียวสำหรับรัฐบาลของทรัมป์ในสมัยที่สองหากเขาชนะการเลือกตั้ง เธอโจมตีว่า Project 2025 กำลังจะพาประเทศย้อนหลังไป 50 ปี เพราะเนื้อหาข้างในของพิมพ์เขียวนี้มีความเป็นอนุรักษนิยมอย่างสุดขั้ว ทั้งแผนการที่จะแบนการทำแท้งทั่วประเทศ, แบนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF), ล้มล้างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และยกระดับศาสนาคริสต์ให้กลายเป็นศาสนาประจำชาติ 

 

หนึ่งในประโยคสุดฮิตที่แฮร์ริสและนักการเมืองรุ่นใหญ่อีกหลายคนกล่าวตลอด 4 คืนของการประชุมคือ “We are not going back.” (เราจะไม่เดินย้อนหลังกลับไป) ซึ่งประโยคนี้ยังบอกเป็นนัยๆ อีกด้วยว่า พวกเราไม่ยินดีที่จะกลับไปเจอกับความโกลาหลและไร้ระเบียบของทำเนียบขาวของทรัมป์แบบที่เราเคยเจอมาในปี 2016-2020

 


 

3. Joy

 

สิ่งที่เราได้เห็นจากการประชุมของพรรครีพับลิกันเมื่อเดือนก่อนคือ ทรัมป์และพรรครีพับลิกันพยายามฉายภาพให้ชาวอเมริกันเห็นว่าประเทศของพวกเขากำลังตกต่ำอย่างมากจนกลายเป็นตัวตลกในสายตาประชาคมโลก เพราะพวกเขามีผู้นำที่อ่อนแอและไม่มีประสิทธิภาพอย่าง โจ ไบเดน และ คามาลา แฮร์ริส

 

แฮร์ริสและพรรคเดโมแครตพยายามฉายภาพที่ตรงข้ามกันอย่างสุดขั้ว โดยที่พวกเขาพยายามชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาหลังการระบาดของโควิดเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วประเทศอื่น ปัญหาเงินเฟ้อก็ชะลอตัวลงแล้ว และนี่เป็นเวลาที่ชาวอเมริกันควรจะมีความสุขเมื่อมองไปถึงอนาคตข้างหน้า โดยที่แฮร์ริสและพรรคเดโมแครตใช้คำว่า Joy บ่อยมากในการปราศรัย เพื่อเน้นความแตกต่างในการมองโลกของพวกเขาว่าต่างไปจากโลกทัศน์ของทรัมป์และผู้สนับสนุนของเขาที่เต็มไปด้วยความคิดในแง่ลบ ความโกรธแค้น และความชิงชัง

 


 

4. โค้ชวอลซ์

 

พรรคเดโมแครตอาศัยโอกาสนี้แนะนำคู่หูของแฮร์ริสอย่าง ทิม วอลซ์ ให้ประชาชนชาวอเมริกันได้รู้จักเขามากขึ้น

 

วอลซ์ไม่ใช่นักการเมืองดังในระดับชาติ ดังนั้นชาวอเมริกันส่วนใหญ่จึงยังไม่ค่อยรู้จักเขาดีนัก พรรคเดโมแครตอาศัยโอกาสนี้ฉายภาพให้ชาวอเมริกันเห็นถึงความเป็นคนธรรมดาๆ ที่เข้าถึงได้ของเขา โดยเน้นไปที่ประวัติการทำงานของเขาที่เคยเป็นคุณครูโรงเรียนมัธยมและโค้ชทีมฟุตบอลของโรงเรียนมัธยมมาก่อน รวมทั้งนำทีมฟุตบอลที่เขาเคยโค้ชมาขึ้นเวทีด้วย

 

นักการเมืองที่ขึ้นไปพูดบนเวทีหลายคน (รวมถึงแฮร์ริสเองด้วย) เรียกวอลซ์ว่าโค้ชวอลซ์ ซึ่งก็เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของคุณพ่อชาวมิดเวสต์ที่นิยมชมชอบการเล่นกีฬา, การทำงานช่าง และการล่าสัตว์ ซึ่งก็น่าจะทำให้ชาวผิวขาวในเขตมิดเวสต์ (อันเป็นมลรัฐสีม่วงที่สำคัญ) สบายใจที่จะลงคะแนนเลือกตั้งให้วอลซ์และแฮร์ริส

 


 

5. อีก 3 เดือนที่เหลือ

 

กลยุทธ์ที่แฮร์ริสใช้กับการประชุมครั้งนี้ น่าจะเป็นกลยุทธ์เดียวกับที่เธอจะใช้ในอีก 3 เดือนที่เหลือ ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน แฮร์ริสจะพยายามรักษาภาพของการเป็นนักการเมืองกลางซ้ายที่ไม่ Woke และพยายามโจมตีทรัมป์ผ่าน Project 2025 ในขณะที่ทรัมป์ก็คงจะต้องพยายามชักจูงให้ชาวอเมริกันเห็นว่าเธอเป็นนักการเมืองแบบซ้ายจัด ในขณะที่ตัวเขาเองก็คงต้องพยายามตีตัวออกหากจาก Project 2025 ให้ได้มากที่สุด

 

ภาพ: Melina Mara / The Washington Post via Getty Images

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising