×

ปรากฏการณ์ 28 มิถุนา

11.07.2025
  • LOADING...

ข้อเขียนนี้ อาจปนเจือด้วยฉันทาคติ เพราะผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ประกอบส่วนในกิจกรรม ‘รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย’ เมื่อ 28 มิถุนายน 2568  ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

 

เมื่อฝนซาฟ้าสร้างรุ้งหลังฝน

เป็นมงคลกำนัลอันยิ่งใหญ่

เป็นสัญญะแปลงเปลี่ยนประเทศไทย

ณ สมรภูมิชัยสมรภูมิ

 

​การชุมนุมผ่านไปแล้ว ท่ามกลางคลื่นมหาชนเนืองแน่นรายรอบอนุสาวรีย์ ทะลักล้นออกไปทางถนนพหลโยธินจนถึงปากซอยลือชา กระจายไปตามถนนราชปรารภ และถนนพญาไท มีจำนวนมากที่ไปยืนนั่งอยู่บนทางเดินยาวตามแนวโค้งของรถไฟฟ้าบีทีเอส ChatGPT ประเมินอย่างเป็นระบบและรายงานว่า มีผู้ชุมนุมจำนวนระหว่าง 80,000-120,000 คน

 

เป็นตัวเลขที่ผิดไปจากการคาดการณ์ของตำรวจที่ว่า จะมีผู้ชุมนุมราว 3,000 คน แต่ก็ได้เห็นกันแล้วว่าคนไทยจากต่างจังหวัดหลายแห่งมากันเป็นกลุ่มก้อน บ้างก็นั่งรถไฟกันมาจากยะลา หาดใหญ่นครศรีธรรมราช พัทลุง บ้างเหมารถบัสมาจากพระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ตราด ระยอง สิงห์บุรี ลพบุรี นครปฐม บ้างรวมกันซิ่งมอเตอร์ไซค์ มาจากราชบุรี

 

​ผู้เขียนถือโอกาสเดินสังเกตการณ์ โดยเดินวนรอบอนุสาวรีย์ถึง 2 รอบ ได้พบว่า ผู้คนที่ร่วมชุมนุมต่างปักใจแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับการต่อสู้ ทุกคนมีเป้มีย่ามมีกระเป๋าสะพายติดตัว แปลว่าเตรียมพร้อมในการชุมนุม กระหายก็เอาน้ำมาดื่ม หิวก็ควักข้าวกล่องมากิน โดยเฉพาะเมื่อราว 15.30 น.  เมื่อฝนเริ่มโปรย แล้วตกหนักขึ้นนั้น ไม่มีใครหนีไปไหน ร่มที่พกมาถูกกางออก ใครไม่มีร่มก็ได้เข้ามาอยู่ใต้ร่มของเพื่อน บ้างขยับไปอยู่ใต้ต้นไม้  บ้างไปอาศัยชายคาร้านค้า เมื่อหมดฝน ฟ้าแจ้งจึงปรากฏเรียวรุ้งหลังฝนอันงดงาม เป็นสัญญาณที่ฟ้าดินเป็นใจให้กับภารกิจประวัติศาสตร์ครั้งนี้ เยาวชนหลายคนในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ืหลายคัน จากชลบุรี ขนอาหารกล่องและผลไม้มาแจก ผู้ชุมนุม จำนวนนับร้อยชุด

 

เด็กหนุ่มคนหนึ่ง อายุราว 35 ปี เข้ามาขอทักทายและจับมืออย่างดีใจ พร้อมกับพูดว่า “ก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกสิ้นหวังกับความชั่วร้ายในบ้านเมือง  ทั้งเรื่องป่วยทิพย์ชั้น 14 เรื่องกาสิโน เรื่องคอร์รัปชั่น แต่เมื่อมาเห็นพลังการต่อสู้ร่วมกันของคนไทยวันนี้แล้ว ผมดีใจมาก ผลการต่อสู้จะเป็นอย่างไรไม่รู้  เป็นเรื่องของอนาคต แต่เมื่อเห็นผู้คนหลายหมื่นคนโบกธงชาติ เป็นจิตหนึ่งใจเดียวกัน ผมดีใจที่สุด ทุกคนต่างเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน ผมรู้ทันทีว่า เมื่อถึงเวลา ประชาชนด้วยกันนั่นเองที่เป็นกำลังต้านยันความชั่วร้ายในบ้านเมืองได้ ดูซิ ฟ้ายังเป็นใจให้  มีทั้งอาทิตย์ทรงกลด มีทั้งรุ้งกินน้ำ  บันดาลพรให้พวกเรา”

 

ปรากฏการณ์ 28 มิถุนา ทำให้เห็นได้ว่า

 

1. ประชาชนสามารถสำแดงออกเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้อย่างมีพลัง ลบคำสบประมาทของกระบอกเสียงฝ่ายรัฐบาลที่ว่า ‘ม็อบจุดไม่ติด’ ที่ว่าการชุมนุมคนเป็นแสนจะเกิดขึ้นไม่ได้แล้วลบล้างความเชื่อที่ว่า “เดี๋ยวนี้คนไทยเลิกลงถนน แต่หันไปเป็นนักรบหน้าจอมือถือกันหมดแล้ว” ​นั่นแปลว่า เมื่อความชั่วร้ายปรากฏชัดต่อสาธารณะ เช่น คลิปอัปยศลุงกับหลาน เช่น คนป่วยทิพย์ชั้น 14 เช่น คาสิโน-การพนัน ล้วนเป็นปฏิบัติการฉ้อฉล ที่สาธารณะประจักษ์จาร โดยไม่จำเป็นต้องไปเสาะหาหลักฐานอะไรมาประกอบ

 

​เมื่ออุบาทว์ของฝ่ายการเมืองปรากฏชัด การนัดหมายในช่วงเวลาที่เหมาะสม การบริหารจัดการที่ดี  การสื่อสารที่ตรงประเด็นและทั่วถึง โดยไม่ต้องจ้างวาน จิตใจรักชาติและรักความเป็นธรรมย่อมขับเคลื่อนตนเองได้อย่างมีพลัง

 

2. การชุมนุมที่บริสุทธิ์และการต่อสู้ที่เป็นธรรม จำเป็นต้องมีเงินมาใช้จ่ายจำนวนหนึ่งที่แน่นอน ซึ่งสามารถระดมเงินบริจาคเข้าบัญชีเปิดเผยได้ด้วยวิธีการและจุดมุ่งหมายที่โปร่งใส​ข้อหาที่ว่า การชุมนุมนี้มีเงินลึกลับเข้ามาสนับสนุน ละลายหายไปสิ้น ​ผู้ควบคุมบัญชีรายจ่าย 3 คน คือ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นิติธร ล้ำเหลือ และแก้วสรร อติโพธิ

 

​เมื่อคุณปานเทพ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เงินบริจาคทั้งหมดมีจำนวนเท่าไร เมื่อใช้จ่ายในการชุมนุมแล้ว เงินที่เหลือทั้งหมดจำนวนมากกว่า 25 ล้านบาท จะมอบให้กองทัพภาค 2 เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินไทย

 

เงินบริจาคอันเนื่องมาจากความรักชาติ รักแผ่นดิน ใช้เวลาราว 5-6 วัน มีจำนวนมากขนาดนี้ สื่อถึงอะไรถ้าไม่ใช่สื่อถึงพลังคนไทยที่ไม่ยอมจำนนต่อความฉ้อฉลในแผ่นดิน

 

3. การกล่าวหาว่าการชุมนุมดังกล่าว เพื่อเรียกหาทหารให้ทำรัฐประหาร เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ ​พรรคประชาชนถึงกับออกคำแถลงเรียกร้องให้ประชาชนถอนตัวจากการชุมนุม โดยกล่าวหาว่า “แกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหาร”

 

​ทั้งๆ ที่ความชอบธรรมอยู่ข้างประชาชนผู้ชุมนุม

 

​ทั้งๆ ที่ นิติธร ล้ำเหลืออ่านคำแถลงแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ให้นายกฯ ลาออก ให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และประชาชนจะรวมพลังกันปกป้องอธิปไตย เป็นเจตจำนงหลักของการชุมนุม ไม่มีใครสักคนที่หวนหารัฐประหาร แต่ละคนเน้นย้ำว่า “ไม่ต้องการรัฐประหาร เพราะแก้ปัญหาของชาติไม่ได้”

 

​โดยที่พรรคประชาชนนั้นเองใช้มายาคติเดิมที่บริบทเปลี่ยนไปแล้วบวกจินตนาการที่ล้นเกิน และยังไม่ไยดีกับผลพวงแห่งเกียรติภูมิของชาติที่วิบัติไปแล้วด้วยคลิพอัปยศดังกล่าว แต่กลับหันมาทิ่มแทงการเมืองภาคประชาชน ที่กำลังทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน

 

​จะอย่างไรก็ตามแพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดพักงานนายกรัฐมนตรีไปแล้ว อีกไม่นานอะไรจะเกิดขึ้นกับสถานะนายกรัฐมนตรีของเธอ ในเมื่อคะแนนเสียง 9:0 ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง ด้วยเห็นว่า ​“ปรากฏเหตุอันควรสงสัยตามคำร้อง คือ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ​คดีคุณเศรษฐา ทวีสิน  แต่งตั้งรัฐมนตรีถุงขนม และถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปีที่แล้วนั้นบางเบากว่าคดีคลิพลุงกับหลานหลายเท่าตัว

 

​ชะตากรรมของ แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นฉันใด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising