ขณะที่ทอม ฮอลแลนด์ ถ่ายหนังเรื่อง Avengers: Infinity War นั้น เขาได้รับบทภาพยนตร์เพียงบางส่วนและข้อมูลเพียงบางอย่างเท่าที่จำเป็น หรือเฉพาะซีนที่มีเขาอยู่ในนั้น เพราะทางมาร์เวลต้องการให้หนังเป็นความลับมากที่สุด เนื่องจากน้องทอมเคยพลั้งปากพูดความลับเกี่ยวกับหนังเรื่อง Spider-Man: Homecoming ออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นขณะที่ถ่ายหนังใหม่นี้ เขาจะต้องต่อยกับผู้ร้ายที่บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าใคร (เพราะเป็นซีจี) ก็ต่อยลมๆ ไป หลบๆ หมัดอากาศกันไป พอทอมถามว่าผู้ร้ายคนนี้หน้าตาเป็นยังไง มาร์เวลก็ไม่บอก เพราะเดี๋ยวรู้ ถามว่าน้ำเสียงเป็นยังไงก็บอกไม่ได้ เดี๋ยวเดาถูก (ทอมคงคิดว่า แล้วกูจะแสดงยังไงเนี่ย)
โปรดิวเซอร์หรือค่ายหนังทำงานกันยากกว่าเดิมในยุคโซเชียลแบบนี้ การรักษาความลับของหนังเป็นสิ่งที่ทำได้ยากยิ่งในช่วงเวลาทุกคนกระหายข่าวร้อนตลอดเวลา จนกระทั่งต้องมีการเซ็นสัญญา NDA (Non-Disclosure Agreement) กับนักแสดงและทีมงาน หากใครปล่อยความลับหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังออกไปแล้วโดนจับได้จะถูกปรับเงินมหาศาล ทุกคนที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องปิดปากสนิท แม้ว่าบริเวณปากจะคันแค่ไหน หรือนิ้วจะสั่นพร้อมพิมพ์ พร้อมโพสต์มากเพียงใดก็ตาม
สมัยก่อนในยุคที่เรายังไม่มีกล้องถ่ายรูปดิจิทัลแบบตอนนี้ ความลับในกองถ่ายคงเป็นเรื่องปากต่อปากที่กระจายไปได้ไม่ไกลนัก จะถ่ายรูปไปบอกชาวบ้านก็ไม่รู้จะเผยแพร่อย่างไรนอกจากส่งให้นักข่าว แล้วถ้าภาพนั้นออกไปก็คงตามตัวได้ไม่ยาก เพราะกล้องถ่ายรูปสมัยก่อนนี่ตัวใหญ่ จะถ่ายทีหนึ่งราวกับมีพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ รู้ตัวคนถ่ายแน่นอน ดังนั้นการรักษาความลับหนังก็เป็นเรื่องที่อาจจะไม่ต้องตักเตือนกัน เพราะคนในกองก็ยุ่งและวุ่นวายจนขี้เกียจเกินไปที่จะควักกล้องถ่ายรูปมาถ่ายภาพเพื่อเอาความลับในกองไปเผยแพร่
ตัดภาพมาที่ยุคกล้องมือถือ ทุกอย่างง่ายดาย จะถ่ายรูปก็ง่ายดาย จะพิมพ์บอกก็ง่ายดาย ไหนจะอยากรีบโพสต์ภาพในกองเพื่อแสดงความเอ็กซ์คลูซีฟของชีวิตอีก หลายปัจจัยกระตุ้นเร้าให้เผยแพร่ความลับในกองออกไปได้ง่ายเหลือเกิน นี่ยังไม่นับแก๊งแคปเจอร์ฟุตเทจหนังเอาไว้ไปคุยกับเพื่อนๆ อีกนะ ป้องกันได้ยากมาก นี่จึงเป็นที่มาของการเซ็นสัญญาแน่นหนาดูซีเรียส ยิ่งการเป็นหนังมาร์เวลที่โลกจับจ้องพร้อมจะล่าข่าวไปโพสต์ด้วยแล้ว แม้ว่าจะป้องกันหนักมาก สุดท้ายก็จะมีคนทั่วไปที่มายืนมุงดูกองถ่ายแล้วแอบถ่ายรูปไปโพสต์ในอินเทอร์เน็ตอยู่ดี (ทั้งนี้ไม่นับรูปตั้งใจหลุดที่เป็นแผนการโปรโมตของค่าย อันนั้นก็ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง)
จริงๆ การปกป้องความลับของกองถ่ายนั้นมีด้วยกันมากมายหลายวิธี บางครั้งหลายๆ กองใหญ่ก็ใช้ชื่อปลอมในการถ่ายทำ ตัวอย่างเช่น Inception นั้น ตอนถ่ายทำใช้ชื่อว่า Oliver’s Arrow (วอทเดอะเฮลล์ แมน) หรือ The Avengers ก็ใช้ชื่อว่า Group Hug (อาร่ายยย) แต่เกร็ดฮาคือหนังเรื่อง Snakes on the Plane นั้นมีชื่อปลอมที่ใช้ในการถ่ายทำว่า Snake on the Plane …ว่าง่ายๆ คือเอาชื่อปลอมมาตั้งเป็นหนังจริงไปเลย เอาแม่งตรงๆ แบบนี้แหละครับ ตรงมู้ดหนังจริงๆ คือจริงๆ แล้วค่ายจะเปลี่ยนเป็นชื่อแนว Pacific Air Flight 121 อะไรแบบนั้น แต่แซมมวล แอล แจ็กสัน นักแสดงในหนังนั้นขอให้ตั้งชื่อเดิม โดยบอกว่าผมรับเล่นหนังเรื่องนี้เพราะตอนแรกมันชื่อ Snake on the Plane นี่แหละ
การป้องกันนั้นบางทียังลามไปถึงการจับคนที่มาแคสต์เซ็นสัญญา NDA ไปด้วย เพื่อไม่ให้ไปบอกว่ามาแคสต์หนังเรื่องอะไร หรือเกร็ดตลกๆ อีกอย่างคือ จอร์จ ลูคัส ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าดาร์ธเวเดอร์เป็นพ่อลุค สกายวอล์กเกอร์ วิธีการคือตอนถ่ายฉากเฉลยความจริงนั้น เขาก็ให้นักแสดงที่เป็นดาร์ธเวเดอร์พูดว่า ‘โอบีวันฆ่าพ่อเจ้า’ ไปเลย จากนั้นค่อยไปพากย์ทับว่า I am your father ทีหลังตอนทำโพสต์โปรดักชัน ว่าง่ายๆ คือคนเล่นเป็นดาร์ธเวเดอร์ยังไม่รู้เลยว่ากูเป็นพ่อลุค และผมว่ามาร์ค ฮามิลล์ ที่แสดงเป็นลุคคงนั่งช็อกคาโรง, อ้าว เฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา
ในฐานะคนทำนะครับ จริงๆ แล้วเราก็ไม่อยากให้ความลับของหนังรั่วไหลออกไป ทั้งในแง่ตัวเนื้องาน เพราะบางครั้งเราก็ไม่อยากให้คนดูเห็นอะไรก่อน บางอย่างเห็นแล้วก็อาจจะสปอยล์ หรือความตื่นเต้นจะลดลงเมื่อได้ดูจริง พร็อพเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างในหนังที่คนแอบถ่ายรูปไปโพสต์อาจจะไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นของเล็กๆประกอบฉากเฉยๆ แต่สำหรับคนทำแล้ว บางทีของเล็กๆ อันนั้นอาจมีผลกับหนังทั้งเรื่องก็เป็นไปได้
ในเชิงธุรกิจ บางโปรเจกต์ใช้เวลาสร้างยาวนานมาก หากมีข้อมูลหรือไอเดียอะไรหลุดออกไป มันก็อาจจะมีโปรเจกต์ที่สร้างได้เร็วกว่าตัดหน้าออกมาฉายก่อนได้ รวมถึงการใช้นักแสดงหน้าใหม่บางคน ที่ถ้าข่าวหลุดออกไป นักแสดงคนนั้นอาจจะถูกนำตัวไปอยู่ในโปรเจกต์อื่นก่อนหน้าได้
แต่เอาจริงๆ เมื่อลองอ่านความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้จากคนทำงานฮอลลีวูด หลายคนพูดตรงกันว่าพวกเขาก็เซ็นสัญญา NDA กันเป็นปกติ ไม่ได้ถือว่าเป็นความไม่ไว้ใจกัน แต่เป็นเรื่องปกติของการทำงาน ว่าง่ายๆ คือการไม่เผยแพร่ความลับของโปรเจกต์เป็นจรรยาบรรณพื้นฐานของคนทำงานด้านนี้ ต่อให้ไม่มีสัญญา บางครั้งก็ไม่ควรพูดอยู่แล้ว
อันนี้อาจจะรวมถึงเรื่องอื่นๆ ในชีวิตด้วยก็ได้