OpenAI ประกาศเปิดให้ใช้ Sora เครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สุดล้ำที่สร้างความฮือฮาในวงการเทคโนโลยีแล้ววันนี้ (10 ธันวาคม) พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ทั้งการสร้างวิดีโอจากข้อความ ทำให้ภาพนิ่งเคลื่อนไหว และรีมิกซ์วิดีโอ โดยผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอความละเอียด 1080p ความยาวสูงสุด 20 วินาที
บริษัท AI สตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft ซึ่งโด่งดังจากความนิยมของ ChatGPT เมื่อปีที่แล้ว ประกาศว่าจะเปิดให้บริการ Sora แก่ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก ยกเว้นในยุโรป สหราชอาณาจักร และบางประเทศที่ยังไม่มีกำหนดการเปิดให้บริการที่แน่ชัด โดย OpenAI เปิดเผย Sora ครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผู้ใช้ ChatGPT Plus สามารถสร้างวิดีโอได้สูงสุด 50 รายการ ความละเอียดสูงสุด 720p ความยาว 5 วินาที ส่วนผู้ใช้ ChatGPT Pro ราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือน จะสามารถสร้างวิดีโอได้ไม่จำกัด ความละเอียดสูงสุด 1080p ความยาว 20 วินาที พร้อมดาวน์โหลดวิดีโอแบบไม่มีลายน้ำ
Rohan Sahai หัวหน้าผลิตภัณฑ์ Sora กล่าวว่า “เราตระหนักดีว่า OpenAI เป็นเป้าหมายใหญ่ เราต้องการป้องกันการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แต่ก็ต้องสร้างสมดุลกับการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ด้วย”
โดย OpenAI ระบุว่า วิดีโอที่สร้างด้วย Sora จะมีลายน้ำและข้อมูล Meta C2PA เพื่อระบุว่าสร้างด้วย AI และก่อนอัปโหลดภาพหรือวิดีโอไปยัง Sora ผู้ใช้ต้องยืนยันว่าเนื้อหาไม่มีผู้เยาว์ ไม่เป็นเนื้อหาที่รุนแรง และเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์
ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้ปิดการระดมทุนรอบล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยมูลค่า 1.57 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงได้รับวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน 4 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มีสภาพคล่องรวมมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์
เงินเหล่านี้จะช่วยรองรับแผนการเติบโตที่แข็งแกร่งในการแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon, Google, Meta และ Microsoft ในตลาด AI ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในทศวรรษนี้
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว Sora เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มศิลปินที่เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบเบื้องต้น โดยพวกเขาได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกวิจารณ์ OpenAI ว่าไม่ได้สนับสนุนศิลปะอย่างแท้จริง และใช้ศิลปินเพื่อการประชาสัมพันธ์เท่านั้น รวมถึงการที่ศิลปินหลายร้อยคนต้องทำงานทดสอบและให้ข้อเสนอแนะโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน
การเปิดตัว Sora ถือเป็นก้าวสำคัญของ OpenAI ในการขยายบริการด้าน AI แบบครบวงจร ทั้งข้อความ ภาพ และวิดีโอ แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านการป้องกันข้อมูลเท็จ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเลือกตั้งสำคัญทั่วโลก ซึ่งข้อมูลจาก Clarity บริษัทด้าน Machine Learning ระบุว่า การสร้าง ‘Deepfake’ ด้วย AI เพิ่มขึ้นถึง 900% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
อ้างอิง: