ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเปิดรับสมัคร ‘ผู้จัดการ’ คนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม – 30 เมษายนนี้ แทน ‘ภากร ปีตธวัชชัย’ ที่ครบวาระกลางเดือนกันยายนนี้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ วานนี้ (20 มีนาคม) ได้มีมติเห็นชอบการเปิดรับสมัครผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 14 แทน ภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนปัจจุบัน ที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในช่วงกลางเดือนกันยายน 2567 ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 14 จะได้เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยตำแหน่งด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สำหรับผู้สมัครที่สนใจ นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แล้ว ยังจะต้องมีทักษะและคุณสมบัติ (Competencies & Personal Attributes) ที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น มีทักษะในการสื่อสาร มีความสามารถในการบริหารจัดการและสานประโยชน์กับองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตลาดทุน เป็นต้น รวมทั้งจำเป็นที่จะต้องมีความรู้และความเข้าใจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวกับตลาดเงินและตลาดทุนเป็นอย่างดี เพื่อพัฒนาองค์กรให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบันด้วย
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาคัดเลือก ข้อมูลอื่นๆ และดาวน์โหลดใบสมัคร ได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม – 30 เมษายน 2567
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 บอร์ดสำนักงาน ก.ล.ต. มีมติแต่งตั้งกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 3 คน ได้แก่
- คมกฤช เกียรติดุริยกุล
- พิชัย ชุณหวชิร
- รวินทร์ บุญญานุสาสน์
เพื่อแทนกรรมการเดิมที่ครบวาระ อีกทั้งเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ กรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติเลือก พิชัย ชุณหวชิร ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการแต่งตั้งจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนั่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
นอกจากนี้ ในช่วงปี 2557 พิชัย ชุณหวชิร ถือเป็นหนึ่งพยานคนสำคัญในคดีปล่อยปละละเลยการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้เรียกพิชัยเข้ามาให้ปากคำในคดีนี้
โดยยิ่งลักษณ์ชี้แจงเหตุผลในหนังสือยื่นคำร้องถึงการขอเสนอชื่อ พิชัย ชุณหวชิร เป็นมาพยานในตอนนั้นว่า พิชัยเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และคุณวุฒิ เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านบัญชี และเป็นพยานบุคคลภายนอก ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนเองด้วย