พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 หลังจากมีอาการป่วย ระบบหัวใจล้มเหลว และเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาล สิริอายุได้ 98 ปี
พล.อ. เปรมเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย 3 สมัย ระหว่างปี 2523 ถึง 2531 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พล.อ. เปรมสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 8 ปี 5 เดือน คือการสนับสนุนจากกองทัพ ดังที่ พล.อ. เปรมกล่าวในพิธีสวนสนามทางเรือ ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ วันที่ 18 เมษายน 2530
“ผมคิดว่าถ้าปราศจากกองทัพ ผมคงไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี…ขณะนี้อุณหภูมิการเมืองกำลังค่อนข้างมีอุณหภูมิสูง แต่ผมก็มั่นใจว่าด้วยความร่วมมือร่วมใจ ความเข้าใจของกองทัพและตำรวจ อุณหภูมิทางการเมืองคงลดต่ำลง ขอเรียนว่าที่ผมสามารถดำรงความเป็นนายกรัฐมนตรีได้ก็เพราะพวกเรา และจะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยการรักษาเกียรติยศชื่อเสียงของกองทัพไว้ให้ได้ กองทัพคือองค์กรที่สำคัญยิ่งของบ้านเมือง…”
นอกจากนี้ พล.อ. เปรมยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่เปิดบ้านให้คณะนายทหารจากกองทัพบกเข้าอวยพรเนื่องในวันสำคัญต่างๆ เริ่มเป็นครั้งแรกในปี 2525 ซึ่งเป็นการเข้าอวยพรวันเกิด พล.อ. เปรม วันที่ 26 สิงหาคม 2525 นำโดย พล.อ. อาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารบก และคณะนายทหารจากกองทัพบก จนกลายเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา
ภายหลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2531 พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีและรัฐบุรุษในปี 2531 ในปี 2541 ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีแทน สัญญา ธรรมศักดิ์ ที่ลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ
ในปี 2559 ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรีครั้งที่ 2 สนองพระเดชพระคุณพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีสองพระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นประธานองคมนตรีสองแผ่นดิน