ฮารูกิ มูราคามิ (Haruki Murakami) นักเขียนชาวญี่ปุ่น มีอายุ 70 ปี ในวันนี้
มูราคามิ เริ่มต้นเขียนนิยายเรื่องแรกคือ สดับลมขับขาน ในปี 1979 ก่อนจะตามมาด้วย พินบอล, 1973 และ แกะรอยแกะดาว (รวมเป็นไตรภาคแห่งมุสิก) ผลงานของเขาแปลไปทั่วโลกกว่า 30 ภาษา ได้รับความนิยมแทบทุกเล่ม เรื่องราวของเขามีทั้งเรื่องแฟนตาซีกึ่งจริงกึ่งฝัน เรื่องของคนเหงา การโหยหาความรัก ความโดดเดี่ยวของคนเมือง เป็นแรงบันดาลใจให้แก่งานอื่นๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น หนังเรื่อง Lost in Translation (โซเฟีย คอปโปลา) หรือ Babel (อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู) ต่างก็ได้รับอิทธิพลจากเขา
ด้านชีวิตส่วนตัว มีสองสิ่งที่เขาทำตลอดชีวิตคือ การฟังเพลงแจ๊ซและการวิ่ง เขานำกิจวัตรทั้งสองอย่างหลอมรวมเข้ากับการเขียนอย่างกลมกลืน ในด้านดนตรี มูราคามิหลงใหลเพลงแจ๊ซมาก เขามีแผ่นเสียงกว่า 6,000 แผ่น มีชื่อเพลงอยู่ในเรื่องที่เขาเขียนแทบทุกเรื่อง อาชีพแรกที่เขาทำยังเป็นงานในร้านแผ่นเสียง เช่นเดียวกับตัวละคร โทรุ วาตานาเบะ ในนิยายเรื่อง ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย
ส่วนการวิ่ง เขาเริ่มออกวิ่งอย่างจริงจังเมื่ออายุ 33 ปี และเล่าถึงชีวิตตัวเองในหนังสือ เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง ว่า เขาจะตื่นตี 4 เริ่มเขียนงานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบ่าย จากนั้นจะออกไปวิ่ง 10 กิโลเมตร หรือว่ายน้ำ 1,500 เมตร (หรือทำทั้งสองอย่าง) จากนั้นก็พักผ่อนด้วยการอ่านหนังสือหรือฟังเพลง และเข้านอนตอน 3 ทุ่มทุกวัน จุดสูงสุดในการวิ่งของเขาอยู่ในปลายช่วงวัย 40 โดยตั้งเป้าวิ่งมาราธอนให้ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง อัตราการวิ่ง 1 กิโลเมตรใน 5 นาที หรือ 1 ไมล์ ใน 8 นาที
เขากล่าวว่า การวิ่งและการเขียนเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะนักวิ่งส่วนใหญ่ต่างใช้เป้าหมายส่วนตัวเป็นแรงบันดาลใจ ได้ทุ่มเทอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพียงแค่นั้นก็ถือว่าเป็นความสำเร็จ อาชีพนักเขียนก็เช่นกัน มันไม่เกี่ยวกับว่าจะได้รับรางวัลอะไรหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าเขียนได้ถึงมาตรฐานที่ตัวเองตั้งเป้าได้หรือเปล่า กล่าวให้ชัด “นักเขียนจะมีแรงบันดาลใจเงียบงันภายใน ไม่ได้เสาะแสวงหาการเห็นพ้องยอมรับจากภายนอก”
เขาเล่าถึงบุคลิกของตนเองไว้ชัดเจนว่า “ผมเป็นมนุษย์ประเภทที่ไม่เจ็บปวดถ้าจะอยู่ตามลำพัง ผมใช้เวลาสี่หรือห้าชั่วโมงนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือไม่ใช่เรื่องยาก ไม่น่าเบื่อสำหรับผม ผมมีแนวโน้มนี้ตั้งแต่ครั้งยังเด็ก หากเลือกได้ ผมอยากนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ คนเดียว หรือไม่ก็ทุ่มสมาธิเต็มที่ให้กับเพลงแทนที่การใช้เวลาร่วมกับผู้อื่น ผมอยู่ตามลำพัง ผมคิดหาเรื่องทำคนเดียวได้ไม่ยาก”
Photo: penguin.com.au