“ไม่เอานะเกรงใจ ไม่ดีหรอกเกรงใจ ไม่เอานะเกรงใจ ยังไงก็เกรงใจ”
ประโยคที่แค่อ่านเฉยๆ คงนึกไม่ออกว่าจะได้กลายเป็นหนึ่งในท่อนฮุกเพลง ‘เกรงใจ’ ที่ดังที่สุดในยุค 90 ที่ขับร้องและชวนทุกคนโยกไปตามจังหวะด้วยท่าเต้น ‘โหนรถเมล์’ ของวง Raptor ศิลปินดูโอที่หนึ่งในสมาชิกเป็นหนุ่มลูกครึ่งผมยาวที่ชื่อ หลุยส์ สก๊อตต์
หลุยส์ สก๊อตต์ เกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2525 เป็นลูกครึ่งไทย-สกอตแลนด์ เกิดที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ก่อนที่กลับมาเติบโตที่ประเทศไทย และเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกตั้งแต่อายุ 7 ปี จากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโฆษณาลูกอมยี่ห้อหนึ่ง และเริ่มได้รับงานแสดงบทสมทบเล็กๆ ในภาพยนตร์เรื่อง โตแล้วต้องโต๋ (2535) ตอนอายุ 10 ปี และมีงานโฆษณาตามมาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นและการเป็นลูกครึ่งที่กำลังเป็น ‘พิมพ์นิยม’ ของวงการบันเทิงในขณะนั้น ทำให้มีแมวมองจากค่าย RS เรียกเข้าไปแสดงความสามารถด้านการร้องและเต้น พร้อมกับ จอนนี่ อันวา ที่ต่อมาได้ฟอร์มทีมขึ้นมาเป็น Raptor วงดูโอรุ่นเยาว์ที่เปิดตัวในปี 2537 และกลายเป็นหนึ่งในศิลปิน ‘ไอคอน’ แห่งยุค 90 ทันที
ทั้งหลุยส์และจอนนี่พาวง Raptor ไดโนเสาร์ตัวเล็กแต่จี๊ดจ๊าด สร้างเพลงฮิตระดับปรากฏการณ์ออกมามากมาย เช่น ซูเปอร์ฮีโร่, ต้องยกให้, คำว่าเพื่อน, อย่าพูดเลย, คิดถึงเธอ, ไม่แคร์, แรงบันดาลใจ รวมทั้งเพลง ‘เกรงใจ’ กับท่าเต้นสุดฮอตที่ยังมีคนพร้อมลุกขึ้นไป ‘โหนรถเมล์’ ทุกครั้งที่เพลงนี้ดังขึ้นมา
หลังออกอัลบั้มสุดท้ายในปี 2541 สมาชิกเพื่อนซี้ทั้งสองคนได้แยกย้ายเพื่อเดินหน้าเรื่องการศึกษาหลังจากที่ทุ่มเทให้กับการทำงานมาตั้งแต่เด็ก เมื่อหลุยส์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์น นิวแฮมป์เชียร์ ก็เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย และเบนเข็มสู่อาชีพนักแสดงเต็มตัว
ชื่อของหลุยส์ในฐานะนักแสดงเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นจากความสามารถที่หลากหลาย แสดงได้ทั้งบทพระเอก พระรอง ไปจนถึงตัวร้ายในละครดังหลายเรื่อง เช่น สวรรค์เบี่ยง (2551), หวานใจกับนายจอมหยิ่ง (2553), ดอกส้มสีทอง (2554), ท่านชายในสายหมอก (2555), พ่อไก่แจ้ (2557), พ่อครัวหัวป่าก์ (2560), เพลิงบุญ (2560) ฯลฯ
โดยเฉพาะการรับบทเป็น เจ้าพระยาวิชเยนทร์ หรือคอนสแตนติน ฟอลคอน ใน บุพเพสันนิวาส ละครระดับปรากฏการณ์ในปี 2561 ที่ยืนยันการเป็นนักแสดงคุณภาพของเขาได้ดีที่สุด
รวมทั้งงาน Raptor Evolution 25 ปี ไม่มีเกรงใจ คอนเสิร์ตใหญ่ที่ยังมีแฟนๆ จากยุค 90s เข้าไปร่วมย้อนบรรยากาศแห่งความสนุก และลุกขึ้นมาเต้นท่า ‘โหนรถเมล์’ กันอย่างเต็มที่ราวกับได้กลับไปอยู่ในช่วงเวลานั้นจริงๆ