วันที่ 16 ตุลาคม 2563 กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘คณะราษฎร 2563’ ประกาศนัดชุมนุมที่บริเวณแยกราชประสงค์ ก่อนจะเปลี่ยนที่ปักหลักเป็นแยกปทุมวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังเข้ม ภายใต้ข้อเรียกร้อง 3 ข้อของผู้ชุมนุม คือ
- พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
- เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญทันที เพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน
- ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จนกระทั่งเวลา 18.40 น. มีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เริ่มปฏิบัติการสลายการชุมนุม โดยเริ่มต้นจากแยกเฉลิมเผ่า และมีการใช้ ‘รถฉีดน้ำแรงดันสูง’ ฉีดน้ำและสารสีน้ำเงินเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ในปี 2563 โดยเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำและสารสีน้ำเงินเป็นระยะ สลับกับการเคลื่อนกำลังพลที่ถือโล่และกระบองตั้งแถวกดดันมวลชน ขณะที่ผู้ชุมนุมต้องถอยร่นสลับกับพยายามนำสิ่งกีดขวางมากั้นเป็นแนวเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ยึดพื้นที่ได้สำเร็จ
การเผชิญหน้าและความตึงเครียดดำเนินมาจนถึงเวลา 20.23 น. ในที่สุดแกนนำจึงประกาศยุติการชุมนุม และขอให้มวลชนแยกย้ายกลับที่พักเพื่อความปลอดภัย และประกาศทิ้งท้ายว่า การถอยครั้งนี้ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ซึ่งไม่ต้องการให้มวลชนบาดเจ็บมากไปกว่านี้ ก่อนจะร่วมกันตะโกนส่งท้ายอีกครั้งว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ”
การสลายการชุมนุมครั้งนี้ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เนื่องจากเป็นการชุมนุมอย่างสงบ และมีเยาวชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการออกหมายจับแกนนำ 12 คนหลังการชุมนุมจบลง