การประหารชีวิตด้วยดาบเริ่มเมื่อประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451) ตามที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 13 ว่า “ผู้ใดต้องคำพิพากษาให้ลงอาญาประหารชีวิต ท่านให้เอามันไปตัดศีรษะเสีย” ประเทศไทยได้ใช้วิธีการประหารชีวิตโดยใช้ดาบตัดศีรษะมาเป็นเวลานานถึง 26 ปี จวบจน พ.ศ. 2477 จึงได้ยกเลิก
ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2447 ได้มีการประหารชีวิตนักโทษหญิงชื่อ ‘นางล้วน’ ถือเป็นนักโทษหญิงที่ถูกประหารชีวิตด้วยวิธีตัดศีรษะเป็นรายสุดท้ายของประเทศไทย
สำหรับนางล้วน นักโทษหญิงรายสุดท้ายที่ถูกตัดศีรษะ ถูกบันทึกไว้เพียงสั้นๆ ว่าต้องโทษด้วยข้อหาฆ่าผัวตายและเผาทั้งบ้าน ถูกประหารที่วัดหนองจอก ริมคลองแสนแสบ มีนบุรี
ส่วนรายสุดท้ายที่ถูกประหารด้วยวิธีตัดศีรษะเป็นผู้ชาย เจ้าของฉายา ‘บุญเพ็งหีบเหล็ก’ ถูกประหารที่วัดภาษี คลองตัน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2462