เรียกเสียงกรี๊ดและความประทับใจกลับไปไม่น้อยกับงาน ‘Ong Seong Wu 1st Fan meeting in Thailand <Eternity>’ แฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกของ องซองอู หนึ่งในสมาชิกวง Wanna One ซึ่งแจ้งเกิดมาจากรายการเรียลิตี้เซอร์ไววัล Produce 101 ซีซัน 2 ที่ผู้จัดอย่าง Hatchery จับมือกับ Fantagio และ MJ Tonz จัดเต็มมอบความสุขให้กับแฟนๆ อย่างเต็มอิ่มตลอด 2 ชั่วโมงเต็มแบบไม่มีกั๊ก
เริ่มตั้งแต่การเปิดตัว องซองอู แบบเรียลไทม์ ให้แฟนๆ เห็นทุกอิริยาบถตั้งแต่หน้าประตูห้องพักศิลปินไปจนถึงบนเวที กับการแสดงสเตจแรกด้วยเพลง Treasure ของ บรูโน มาร์ส เรียกเสียงกรี๊ดของแฟนๆ ในธันเดอร์โดมได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ปรากฏตัว
ก่อนจะเริ่มงานแฟนมีตติ้งด้วยการให้ องซองอู เลือกกิจกรรมผ่านแท็บเล็ต โดยในแต่ละช่วงจะมีชื่อเรียกตามแอปพลิเคชันที่อ้างอิงจากชื่อของเขา เริ่มต้นกิจกรรมแรกด้วยช่วง ONG TALK เป็นการพูดคุยและตอบคำถาม ที่เรียกเสียงกรี๊ดและความฟินไปไม่น้อยกับคำถามที่ทำให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนและความน่ารักของ องซองอู เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น จุดเริ่มต้นของความสามารถพิเศษในการพับหู งอนิ้ว ไปจนถึงจุดเริ่มต้นความฝันในการเป็นนักแสดงที่ องซองอู กล่าวว่า “ความฝันในการเป็นนักแสดงของผมเริ่มตั้งแต่ช่วงมหาวิทยาลัยปี 1 ตอนนั้นผมมีโอกาสได้เรียนการแสดงและค้นพบว่านี่คือสิ่งที่ใช่ ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะได้แสดงซีรีส์แล้ว แต่ความฝันของผมยังคงดำเนินต่อไป ผมอยากเป็นนักแสดงที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ทุกคนช่วยกันสร้างผมให้เป็นนักแสดงที่ดีขึ้นไปด้วยกันนะครับ” ก่อนที่ องซองอู จะโชว์สเตปการเต้น Popping แบบฟรีสไตล์ให้แฟนๆ ได้ชม ซึ่งทำให้แฟนๆ หลายคนนึกถึงช่วงเวลาในรายการ Produce 101 ขึ้นมาทันที
Photo: Hatchery
ต่อด้วยช่วง ONGSTAGRAM กับการโชว์ภาพถ่ายในอินสตาแกรม ที่พ่วงมากับการแจกโปสการ์ดพร้อมลายเซ็น และเค้กเซอร์ไพรส์จากแฟนคลับที่ทำให้ องซองอู เขินและยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะปิดท้ายด้วยช่วง ONG PLAY MUSIC กับการ Random Dance เพลงของ Wanna One และการร้องเพลง Please ที่ทำให้แฟนๆ ในฮอลล์อินและเต็มอิ่มไปกับความรู้สึกที่ องซองอู สื่อออกมา
ก่อนปิดท้ายงานแฟนมีตติ้งด้วย 3 กิจกรรมที่ องซองอู พร้อมทำทุกอย่างเพื่อแฟนคลับอย่างแท้จริง ทั้งการคีบตุ๊กตาจากตู้คีบ พร้อมเซ็นลายเซ็นแบบสดๆ การเลือกดื่ม Caramel Macchiato เครื่องดื่มโปรดที่มีเพียง 1 จาก 5 แก้วที่มีรสชาติปกติ ซึ่งเขาต้องอดทนกับรสชาติที่เลือกเพื่อมอบของรางวัลให้กับแฟนๆ และการพูดภาษาไทยในประโยค “ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่คอยรักและให้กำลังใจผมนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ลืมความทรงจำที่เราสร้างมาด้วยกัน อยู่เคียงข้างผมตลอดไปนะครับ” ที่ องซองอู กล่าวชมตัวเองด้วยความภาคภูมิใจหลังจากสามารถพูดประโยคดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่องและชัดเจน พร้อมแจกไซน์บอล และทิ้งท้ายด้วยโปรเจกต์พิเศษจากแฟนคลับ กับการเปลี่ยนทั้งฮอลล์ให้เป็นจักรวาลระยิบระยับผ่านสติกเกอร์ใสหลากสีบนแฟลชโทรศัพท์ พร้อมข้อความ ‘너가 별이라면 우리는 널 안아주는 우주가 될거야’ (หากคุณเป็นดวงดาว พวกเราจะเป็นจักรวาลที่คอยโอบกอดเอาไว้) และคลิปแฟนเมดสุดประทับใจ
ซึ่ง องซองอู ตอบแทนทุกความรักของแฟนๆ ที่มอบให้ ด้วยการร้องเพลง Love This Moment และโชว์เพลง That’s What I Like (บรูโน มาร์ส) เพลงที่เขาใช้ตอนคัดเกรดในรายการ Produce 101 ซึ่งเป็นเพลงที่ทำให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวตนของเขาเป็นครั้งแรก ก่อนร่วมส่งแฟนๆ กลับบ้านด้วยไฮไลต์เด็ดของงานอย่างการ Hi-Touch แฟนๆ ทุกที่นั่ง สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับแฟนๆ ไปอย่างเต็มอิ่มและครบรสแบบ Eternity
“ในที่สุดเราก็ได้เจอกันแล้วนะครับ มันแปลกมากที่เรามีงานแฟนมีตติ้งที่นี่เป็นครั้งแรกถึงสองครั้ง ผมอยากบอกว่าผมคิดถึงทุกคนมากๆ และตอนนี้ผมมีความสุขมากๆ เลยครับ ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร แต่ขอบคุณมากๆ นะครับที่มาหาผมในวันนี้ ผมสัญญาว่าผมจะมาหาทุกคนบ่อยๆ ทุกคนรอผมด้วยนะครับ” – องซองอู