One Bangkok โครงการอสังหาริมทรัพย์ต้นแบบกรีนสมาร์ทซิตี้ใจกลางกรุงเทพฯ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากโควิดคลี่คลายลงไปแล้ว เหล่าบรรดาบริษัททั้งรายเล็กและรายใหญ่เริ่มต้องการให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศกันอีกครั้ง แต่ปัจจุบันพฤติกรรมและเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ไม่ได้ต้องการแค่พื้นที่ทำงานอย่างเดียว แต่ยังต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบวงจร ที่สำคัญต้องมีพื้นที่ให้สามารถทำงานและใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กันได้
หนึ่งในอาคารสำนักงานที่การันตีได้ว่าถูกสร้างและออกแบบมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี นั่นก็คืออาคารสำนักงานใน One Bangkok โครงการอสังหาริมทรัพย์ต้นแบบกรีนสมาร์ทซิตี้ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน พัฒนาโดยบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ภายใต้แนวคิด The Heart of Bangkok เมืองที่ใช้ใจสร้าง โดยยึดเอา ‘หัวใจ’ ของผู้คนเป็นศูนย์กลาง ที่สร้างและออกแบบขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมความต้องการของผู้คนอย่างครอบคลุมทุกมิติ
ทัตยากรณ์ เบญจภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายอาคารสำนักงาน One Bangkok
ทัตยากรณ์ เบญจภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายอาคารสำนักงาน โครงการ One Bangkok ผู้ที่อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มามากกว่า 20 ปี กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้คนหลังโควิดเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคย Work from Home มีพื้นที่เป็นของตัวเอง มีโต๊ะทำงานของตัวเอง และไม่ได้ใช้พื้นที่ร่วมกันกับคนอื่นมากนัก แต่หลังจากโควิดหลายๆ บริษัทเริ่มต้องการให้พนักงานกลับมาทำงาน ดังนั้นแค่พื้นที่อย่างเดียวไม่พอแล้ว แต่จะต้องเป็นพื้นที่หรือสำนักงานที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างครบวงจร
One Bangkok ถูกออกแบบให้สอดรับกับเทรนด์ของอาคารสำนักงานแห่งอนาคต มีจุดเด่นตรงที่เป็น District มีความเป็นเมือง ประกอบด้วยพื้นที่อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง โรงแรมระดับลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ ศูนย์แสดงนิทรรศการและจัดกิจกรรมระดับโลก แหล่งรวมศิลปวัฒนธรรมที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิตในทุกวัน พร้อมกับบริเวณพื้นที่สาธารณะสีเขียว และพื้นที่เปิดโล่งมากกว่า 50 ไร่ ตลอดจนการเป็นเมืองอัจฉริยะที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีขั้นสูง และทันสมัยที่สุดเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
โดยในส่วนของอาคารสำนักงาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของโครงการ มีการนำเสนอมาตรฐานใหม่ของการทำงานแห่งโลกอนาคต ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน ประกอบด้วยอาคารสำนักงานระดับพรีเมียม จำนวน 5 อาคาร ซึ่งเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์จะมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมกว่า 500,000 ตารางเมตร
อาคารสำนักงานในโครงการ One Bangkok
กลุ่มอาคารสำนักงานที่นี่จะเป็นศูนย์กลางที่ตั้งของบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างชาติ ที่มองหาพื้นที่สำนักงานคุณภาพสูง ออกแบบโดยคำนึงถึงสุขภาวะที่ดี ความยั่งยืน และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เป็นพื้นที่ทำงานที่ส่งเสริมให้ผู้คนทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตในทุกมิติด้วยองค์ประกอบต่างๆ ภายในโครงการ ทั้งนี้ หลังจากประเดิมเปิดให้เช่าอาคารสำนักงานแรกบนพื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 95,000 ตารางเมตร จำนวน 50 ชั้น เพียง 1 ปี มียอดจองทะลุเป้าสูงถึงกว่า 50% และคาดว่าจะสามารถปิดยอดจองได้ถึง 80% ภายในไตรมาส 2 ปี 2567
อาคารสำนักงานในโครงการ One Bangkok
ขณะที่อาคารสำนักงานที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่ารวม 97,000 ตารางเมตร จำนวน 48 ชั้น ซึ่งคาดว่าจะมียอดจองถึง 55% ภายในช่วงเวลาเดียวกัน และในส่วนของอาคารสำนักงานที่ 3 ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่ารวม 97,000 ตารางเมตร จำนวน 35 ชั้น ก็เริ่มเปิดให้จองแล้วเช่นกัน
ถึงแม้โครงการ One Bangkok จะตั้งอยู่บนพื้นที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรค่อนข้างคับคั่ง แต่ได้ใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาดูแลเรื่องทราฟฟิกแมเนจเมนต์ และมองหาโซลูชันที่ดีให้กับลูกค้า โดยโครงการจะมีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด แบ่งเป็นทางถนนวิทยุ 3 ทางเข้า-ออก และจากทางถนนพระราม 4 อีก 2 ทางเข้า-ออก รวมถึงอีก 1 ทางเข้าออกที่เป็นไฮไลต์หลัก ถือเป็นโครงการที่สร้างเส้นทางเชื่อมตัดตรงเข้าสู่ทางด่วนโดยตรงเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
โครงการฯ ยังเชื่อมต่อกับสถานี MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี เพราะในอนาคต MRT จะเป็นรถไฟฟ้าสายหลักที่ครอบคลุมจากเส้นทางในเมืองและนอกเมือง รวมถึงยังมีบริการรถ Shuttle Bus เพื่อรับส่งที่รถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิตอีกด้วย ทั้งหมดนี้เรามั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการเดินทางอย่างมาก
อีกหนึ่งจุดเด่นคือตัวโครงการได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน LEED for Neighbourhood Development และมาตรฐานรับรองอาคาร WELL ระดับ Platinum เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร ด้วยการนำเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะที่ล้ำสมัยเพื่อความยั่งยืน เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบอาคารให้เหนือกว่ามาตรฐานของอาคารสำนักงานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการนำกระจกฉนวนกันความร้อน หรือกระจกอินซูเลตที่สามารถกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้กว่า 75% มาใช้กับอาคารสำนักงานในโครงการฯ ทำให้ปกป้องผู้คนในอาคารจากสภาพภูมิอากาศที่สูงขึ้น
การติดตั้งระบบระบายอากาศประสิทธิภาพสูงที่สามารถดึงอากาศจากภายนอกเข้าสู่อาคารสูงกว่ามาตรฐานสากลถึง 30% โดยนำมาผ่านแผ่นกรองอากาศระดับพรีเมียม พร้อมฉายรังสียูวีฆ่าเชื้อโรคเพื่อให้ได้รับอากาศสะอาดที่หมุนเวียนและปลอดโปร่งภายในอาคารมากขึ้น เป็นต้น
ยิ่งไปกว่านั้นภายในตัวโครงการยังเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะครอบคลุมทุกพื้นที่ เป็นกลุ่มอาคารสำนักงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน WiredScore Platinum และ SmartScore Platinum ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของ WiredScore โดยมี District Command Center ทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมการสั่งการที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดเพื่อตรวจสอบระบบต่างๆ ภายในอาคาร มีเซ็นเซอร์กว่า 250,000 จุด และกล้องวงจรปิดมากกว่า 5,000 ตัว ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
Super App รวบรวมหลากหลายบริการ เพื่อประสบการณ์การทำงาน และการใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อ
นอกจากนี้ทางโครงการฯ ได้พัฒนา Super App หรือแอปพลิเคชันที่เปิดให้ผู้มาใช้บริการสามารถสำรองที่จอดรถ ค้นหาตำแหน่งรถ (Find My Car) ที่สำคัญหากเลิกงานดึกสามารถกดสั่งงานในแอปพลิเคชันให้กล้องหันมาโฟกัส มาดูแลความปลอดภัยให้เราได้โดยตรง สิ่งเหล่านี้คืออีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ลูกค้าชื่นชอบมาก นอกจากนี้ยังสามารถสั่งอาหาร ช้อปปิ้งออนไลน์ผ่าน Super App ได้อีกด้วย
ทัตยากรณ์กล่าวต่อว่า โครงการไม่ได้มุ่งแค่เรื่องการขายพื้นที่อย่างเดียว แต่เราเน้นเรื่องความใส่ใจด้านบริการหลังจากขายให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาอยู่ในโครงการ ทั้งเรื่อง Service และ Communications ที่นอกจากการให้พื้นที่ในการทำงาน แล้วเรายังเตรียมสร้าง Community จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ให้พนักงานที่อาศัยอยู่ในตัวโครงการสามารถหา Inspiration ใหม่ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับการทำงาน
“กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เรามีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการทำ Commercial Building โครงการ One Bangkok จึงถูกทำออกมาจากประสบการณ์ที่สะสมมายาวนาน และความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง เราคิดว่ามันตอบโจทย์กับทุกความต้องการได้มากที่สุด ทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า สมกับที่เราตั้งใจเป็น The Future Workplace”
ดังนั้นการเข้ามาอยู่ใน One Bangkok จะไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานอย่างเดียว แต่จะยังเป็นสถานที่ที่จะได้เพลิดเพลินไปกับอีเวนต์หรือกิจกรรมต่างๆ รวมถึงพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะสาธารณะและความคิดสร้างสรรค์ หรือ Art Loop ความยาวรวมกว่า 2 กิโลเมตรรอบโครงการ ที่จะทำให้พนักงานได้รับแรงบันดาลใจใหม่ๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานได้
พื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งภายในโครงการ One Bangkok
อีกสิ่งหนึ่งที่กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญมากคือเรื่องของ Sustainability หรือการให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน และ One Bangkok ก็เป็นโครงการฯ แรกในไทยที่มีรูปแบบการเช่าพื้นที่สำนักงานแบบ Green Lease โดยผู้ให้เช่าและผู้เช่าพื้นที่ร่วมกันกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน และแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
จากกลยุทธ์การทำการตลาดรวมถึงเรื่องพื้นที่และการออกแบบโครงการ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เรามั่นใจว่าจะสามารถดึงดูดทั้งบริษัทในไทยและบริษัทต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ฮ่องกง หรือออสเตรเลีย หรือแม้กระทั่งประเทศจีน เข้ามาอยู่ในโครงการของเราได้
ปัจจุบันอาคารสำนักงานใน One Bangkok ได้รับการตอบรับและความสนใจจากองค์กรระดับโลกมากมายในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ สำนักงานกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านความบันเทิง ธนาคารต่างประเทศ บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามระดับโลก เช่น บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI Securities (Thailand)), บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด (Baker McKenzie, Ltd.), และเอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ (Estee Lauder Companies) เป็นต้น
ทัตยากรณ์ย้ำว่า เป้าหมายของโครงการ One Bangkok ไม่ใช่แค่การสร้างโครงการให้คนเข้ามาอยู่ แต่เราต้องทำให้ Community นี้แข็งแรง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้คนที่อยู่ในโครงการ และสามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนได้
ทีมงานส่วนอาคารสำนักงานโครงการ One Bangkok