วันนี้ (29 กันยายน) พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทัพเรือภาคที่ 3, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.), กองบังคับการตำรวจน้ำ และ บช.ปส. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการสำคัญ ยึดไอซ์ได้มากถึง 502 กิโลกรัม และคีตามีน 600 กรัม พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 คน (เสียชีวิต 1 คน ขณะพยายามหลบหนี) บนเรือบรรทุกผู้โดยสารสัญชาติไทยชื่อ อิลิกเซอร์ (Elixir) บริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สินมูลค่ารวม 5 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดระนอง
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร.) ได้สืบทราบข้อมูลเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางเรือ เตรียมขนยาเสพติดปริมาณมหาศาลไปยังประเทศที่สาม จึงประสานไปยัง ป.ป.ส.
ชุดปฏิบัติการร่วมจากหลายหน่วยงานจึงได้ติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งพบเรือต้องสงสัยชื่ออิลิกเซอร์ (Elixir) แล่นมาจากจังหวัดระนอง และมาจอดอยู่ที่ท่าเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต โดยมีลักษณะผิดปกติและบุคคลในเรือมีพิรุธ ชุดปฏิบัติการจึงเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 พบยาเสพติดทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ใน ห้องอับเฉาใต้ท้องเรือ
เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า ในระหว่างการจับกุม มีผู้ต้องหา 1 ราย กระโดดลงน้ำหลบหนีและเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้ใช้นักประดาน้ำเก็บกู้ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญกลับคืนมาได้
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่า เรืออิลิกเซอร์ได้แล่นออกจากจังหวัดระนองไปรับ ไอซ์ 40 กระสอบ (คาดว่า 1 ตัน) บริเวณใกล้เกาะสอง ประเทศเมียนมา จากนั้นนำเรือมาจอดรอลูกค้าที่บริเวณน่านน้ำจังหวัดสตูล แต่เนื่องจากไม่มีผู้มารับ จึงนำเรือกลับมาที่อ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต โดยมีชายอีก 2 คน นำเครื่องบรรจุภัณฑ์สุญญากาศและถุงชาเปล่าขึ้นมาบนเรือ เพื่อบรรจุไอซ์ใหม่โดยใช้เวลา 3 วัน
ต่อมา กลุ่มผู้ต้องหาได้นำไอซ์ 20 กระสอบ (ประมาณ 500 กิโลกรัม) ส่งมอบให้เรือสปีดโบ๊ทบริเวณน่านน้ำจังหวัดสตูล ส่วนไอซ์ที่เหลือประมาณ 20 กระสอบ (502 กก.) เตรียมลำเลียงต่อไปยัง ประเทศอินโดนีเซีย แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จึงต้องจอดรออยู่ที่อ่าวฉลอง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากการบูรณาการด้านข่าวและการสืบสวนร่วมกับหน่วยงานภาคี ซึ่งปัจจุบันเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติยังคงลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านช่องทางทางเรืออย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 เพียงปีเดียว มีการจับกุมในน่านน้ำไทยแล้ว 6 คดี ของกลาง ไอซ์รวม 7.3 ตัน และพบการจับกุมในน่านน้ำสากลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 9 คดี ของกลางไอซ์ 18.1 ตัน
สำนักงาน ป.ป.ส. จึงจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับความเข้มงวดในการลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เป็นจุดเสี่ยง เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงไปยังประเทศที่สาม เช่น ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย พร้อมสืบสวนขยายผลดำเนินคดีถึงระดับนายทุนผู้สั่งการและดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินต่อไป