วันนี้ (8 สิงหาคม) เซอร์เบียคว้าเหรียญทองโปโลน้ำชายในโอลิมปิกเกมส์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน หลังเอาชนะ กรีซ ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่ทัตสึมิ วอเตอร์ โปโล เซ็นเตอร์ (Tatsumi Water Polo Centre) คว้าเหรียญทองเหรียญที่ 3 ให้ชาติของตัวเอง และเป็นเหรียญทองเหรียญสุดท้ายในการแข่งขันครั้งนี้
นิโกลา แยกซิช ทำ 3 ประตูในเกมนี้ และ ฟิลิป ฟิลิโปวิช สตาร์ของทีมก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เซอร์เบียได้รับชัยชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่แพ้โครเอเชียในการเล่นรอบแบ่งกลุ่ม โดยพวกเขาจบที่ 3 ในกลุ่ม B แต่ยกระดับการเล่นจนกลายเป็นอีกทีมเมื่อเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเหมือนที่เคยทำได้มาแล้วในปี 2016
ประตูของฟิลิโปวิชในช่วงไทเบรกก่อนหมดเวลา 26 วินาทีที่ช่วยให้เซอร์เบียเอาชนะสเปน 10-9 ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ยังเป็นที่พูดถึงไปควบคู่กับการคว้าเหรียญทองในเกมชิงชนะเลิศด้วย
ซอร์เบียกลายเป็นประเทศแรกที่ป้องกันแชมป์โปโลน้ำได้สำเร็จนับตั้งแต่ที่ฮังการียังครองความยิ่งใหญ่ในกีฬาชนิดนี้และกวาดเหรียญทองไปครองถึง 3 สมัยซ้อนในปี 2000, 2004 และ 2008 โดยนี่ยังเป็นเหรียญทองเหรียญที่ 3 ของเซอร์เบียในโอลิมปิกครั้งนี้ โดยพวกเขาขยับขึ้นมารั้งอันดับ 28 ในตารางเหรียญรวมด้วย
ดิมิตริออส สกูมปากอส, โลอันนิส โฟอันทูลิส และ อังเจลอส วลาโชปูลอส ช่วยกรีซทำคนละ 2 ประตูในนัดนี้ แม้จะไม่ดีพอให้ทีมคว้าเหรียญทองได้ แต่นี่ก็เป็นเหรียญรางวัลเหรียญแรกในกีฬาโปโลน้ำชายของพวกเขา โดยผลงานดีที่สุดที่เคยทำได้ในกีฬาชนิดนี้คือการได้ที่ 4 ในปี 2004 เท่านั้น
นอกจากนี้การได้เหรียญเงินของทีมโปโลน้ำชายกรีซ ยังถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของทัพโปโลน้ำจากแดนเทพนิยายเทียบเท่ากับที่ทีมโปโลน้ำหญิงเคยทำได้ในปี 2004 ด้วย
ขณะที่เหรียญทองแดง ฮังการี อดีตยักษ์ใหญ่ในกีฬาชนิดนี้ก็เอาชนะสเปนไป 9-5 คว้าเหรียญทองแดงที่ 7 ของพวกเขา พร้อมจบอันดับที่ 15 ในตารางคะแนนรวม โดยมี 6 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน กับ 7 เหรียญทองแดง
อ้างอิง: