ทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ ‘โตเกียว 2020’ คือหนึ่งในชาติที่น่าจับตามองของทวีปเอเชีย ด้วยเพราะมีนักกีฬาที่เคยเป็นทั้งแชมป์โลกและมือ 1 ของโลก ร่วมแข่งขันหลายคน
เธอทั้งสี่คือสุดยอดนักกีฬาหญิงของไทยที่มีโอกาสสร้างความมหัศจรรย์ คว้าเหรียญรางวัลอันเป็นสุดยอดปรารถนา
พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด)
นักกีฬาหมายเลข 1 ที่เป็นความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทยชุดโตเกียว 2020 ในการคว้าเหรียญทอง โดยจอมเตะสาวไทยคว้าแชมป์เทควันโดโลก ปี 2015 รุ่นไม่เกิน 46 กิโลกรัม และปี 2019 รุ่นไม่เกิน 49 กิโลกรัม
เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เป็นแชมป์เทควันโดโลกคนที่ 4 ของไทย และเบอร์ 1 ของโลก อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เธอเป็นเจ้าของเหรียญทองกีฬาเทควันโด รุ่นเยาวชนหญิง น้ำหนักไม่เกิน 44 กิโลกรัม ในการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่เมืองนานกิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปี 2014 และคว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล
เธอกวาดความสำเร็จในระดับแชมเปียนทุกรายการมาแล้วในโลกใบนี้ ตั้งแต่ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ กีฬามหาวิทยาลัยโลก แกรนด์สแลม ไฟนอล เหลือเพียงเหรียญทองโอลิมปิกเท่านั้นที่จะทำให้เธอเป็นสุดยอดนักกีฬาเทควันโดของโลก และเป็นตำนานของวงการกีฬาไทยตลอดกาล
รัชนก อินทนนท์ (แบดมินตัน)
เจ้าของตำแหน่งแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยซ้อน (ปี 2009-2011) เมย์-รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวไทย ผงาดคว้าแชมป์โลกที่กวางโจวในปี 2013 ซึ่งเป็นแชมป์โลกอายุน้อยที่สุดเพียง 18 ปีเท่านั้น และเธอยังเดินหน้าคว้าแชมป์เอเชียในปี 2015 ที่อู่ฮั่น จากนั้นในปี 2016 เมย์ รัชนก คว้าแชมป์ซูเปอร์ซีรีส์ 3 รายการ ใน 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ที่อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่งผลให้เธอทะยานขึ้นไปครองตำแหน่งนักแบดมินตันมือ 1 ของโลกได้สำเร็จ
เมย์ รัชนก เป็นหนึ่งในนักกีฬาระดับโลกที่แฟนกีฬารักที่สุด ด้วยกิริยามารยาทที่น่ารัก เรียบร้อย เธอยกมือไหว้ผู้ชมในสนาม ไหว้ผู้ตัดสินที่ส่งลูกขนไก่ให้ ไหว้เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาเช็ดพื้นสนามระหว่างแข่งขัน นั่นคือเอกลักษณ์อันงดงามในความเป็นไทยที่ได้รับการยกย่องทั่วโลก
เมย์ รัชนก ลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 เป็นสมัยที่ 3 ของตนเอง หลังจากปี 2012 ที่ลอนดอน แพ้ในรอบ 8 คน และปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร แพ้รอบ 16 คน ทำให้ครั้งนี้ เธอมีความมุ่งมั่นที่จะคว้าเหรียญรางวัลเหรียญใดเหรียญหนึ่งให้ได้ ถ้าไม่เกรงใจใคร เธอก็อยากได้ถึงเหรียญทอง
เอรียา จุฑานุกาล (กอล์ฟ)
โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล เกือบคว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ปี 2013 แต่กลับพลาดท่าในหลุมสุดท้าย วันสุดท้าย ได้แค่รองแชมป์ โดยแพ้ พัคอินบี มือวางอันดับ 1 ของโลกขณะนั้น อย่างน่าเจ็บใจ ก่อนที่เธอจะ ‘เอาคืน’ ได้ทั้งหมด
เริ่มจากการคว้าแชมป์โยโกฮามา ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก 2016 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่ได้แชมป์แอลพีจีเอ (คว้าแชมป์ 3 รายการติดต่อกัน โยโกฮามา ไทร์ คลาสสิก, คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิป, วอลวิค แชมเปียนชิป) ชนะเลิศรายการเมเจอร์ (บริติชโอเพ่น 2016, ยูเอสโอเพ่น 2018 ) เป็นผู้เล่นแห่งปี Rolex Player of the Year เป็นนักกอล์ฟที่ทำเงินรางวัลสูงสุด และไม่ลืมที่จะกลับมาคว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ปี 2021 หลังจากที่ค้างใจมา 7 ปี
โปรอัจฉริยะสาวไทยขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกในปี 2017 โดยก่อนหน้านั้นเธอเคยเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2016 ด้วยความหวังเหรียญรางวัล แต่ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจนแข่งขันไม่จบ และในโตเกียว 2020 เธอได้กลับมาอีกครั้ง ด้วยประสบการณ์ ความคิด และจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน)
ณี-สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงเป้าบินสาวไทย ขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกจากการประกาศของสหพันธ์ยิงเป้าบินนานาชาติ (IASF) หลังจากที่เธอคว้าแชมป์โลก ยิงปืนเป้าบิน ประเภทสกีตหญิง ได้ถึง 2 สนาม ในปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เดือนเมษายน และเวิลด์คัพ ที่ซานมาริโน ในเดือนมิถุนายน
สาวแม่นเป้าไทยติดทีมชาติไทยเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในปี 2008 ที่ปักกิ่ง และทะลุเข้าไปได้ลุ้นเหรียญรางวัล แต่กลับพลาดท่าได้แค่อันดับ 5 อย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม สุธิยาถือเป็นนักกีฬาระดับโลก เป็นนักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 4 สมัย ที่จะได้ลุ้นเหรียญอีกครั้งในโตเกียว 2020
สุธิยาลงแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้แบบไม่มีเป้าหมายใดๆ ทั้งสิ้น คู่แข่งนั้นมีมากมาย แต่สำหรับเธออาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังแข่งกับใคร ขอเพียงตั้งสมาธิ ทำจิตใจให้โล่ง และลั่นกระสุนออกไปเท่านั้น
กลุ่มนักกีฬาที่ติด ‘โพลล์’ ในการคว้าเหรียญในโตเกียว 2020
เดชาพล พัววรานุเคราะห์-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (แบดมินตัน)
คู่ผสมนักแบดมินตันที่แกร่งที่สุด เมื่อทั้งคู่คว้า 3 แชมป์รายการใหญ่ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อต้นปี 2021 และกำลังติดลมบน เส้นทางหวดของคู่นี้ควรเข้าถึงรอบตัดเชือกเป็นอย่างน้อย ทำให้ ‘บาส-ปอป้อ’ เป็นความหวังเหรียญโอลิมปิกแรกของกีฬาแบดมินตัน
ปภังกร ธวัชธนกิจ (กอล์ฟ)
โปรเหมียววัยแค่ 21 ปี แต่คว้าแชมป์เมเจอร์ รายการเอเอ็นเอ อินสไพเรชัน มาครองได้ นั่นคือความสุดยอดของสาวแพตตี้ที่วงการกอล์ฟยอมซูฮก และถ้าวัดกันที่ความคงเส้นคงวา เธอก็พร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับกีฬากอล์ฟไทยในโอลิมปิกครั้งนี้
ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (มวยสากล)
นักมวยสากลชายเพียงหนึ่งเดียวในโตเกียวเกมส์ แต่มากประสบการณ์ ด้วยวัย 36 ปีในโอลิมปิกครั้งสุดท้ายก่อนที่จะแขวนนวม กีฬามวยสากลของไทยห่างหายจากเหรียญทองโอลิมปิกไปนาน 13 ปี และในโอลิมปิก 2016 ก็ไม่ได้เหรียญอะไรเลย นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทวงเหรียญกลับคืน
คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย โดยฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่ประเมินความหวังทัพไทยในโตเกียว 2020 ยังได้ระบุชื่อนักกีฬาที่อยู่ในข่ายจะสร้างปรากฏการณ์คว้าเหรียญรางวัลได้อีกจากเขาเหล่านี้
สุดาพร สีสอนดี (มวยสากลหญิง), คีริน ตันติเวทย์ (กรีฑา), ใบสน มณีก้อน (มวยสากลหญิง), จุฑามาศ จิตรพงศ์ (มวยสากลหญิง), รามณรงค์ เสวกวิหารี (เทควันโด), ศิริพร แก้วดวงงาม (วินด์เซิร์ฟ), ณัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ (วินด์เซิร์ฟ), บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ (แบดมินตัน)
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนพร้อมทุ่มเทเต็มที่เพื่อคนไทยทุกคนแน่นอน
