วันนี้ (8 สิงหาคม) เอเลียด คิปโชเก นักวิ่งชาวเคนยา กลายเป็นนักวิ่งมาราธอนคนแรกนับตั้งแต่ปี 1980 ที่สามารถป้องกันเหรียญทองวิ่งมาราธอนในโอลิมปิกเกมส์เอาไว้ได้ หลังเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในการแข่งขันที่ซับโปโรในเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
เจ้าของสถิติโลกมาราธอนคนปัจจุบันเป็นเพียงนักวิ่งคนที่ 3 ที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันเหรียญทองมาราธอนในประวัติศาสตร์ของโอลิมปิกเกมส์ หลังวิ่งทำเวลาได้ 2 ชั่วโมง 8 นาที 38 วินาที เข้าเส้นชัยที่ซัปโปโรพาร์กแบบทิ้งห่างคู่แข่งเกิน 1 นาที
คิปโชเกตอกย้ำความเป็นนักมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ด้วยการทิ้ง แอบดี นากีเย นักวิ่งจากเนเธอร์แลนด์ห่างถึง 1 นาที 20 วินาที พร้อมทิ้งเจ้าของเหรียญทองแดงอย่าง บาเชียร์ แอบดี จากเบลเยียมเพิ่มขึ้นอีก 2 วินาที
นี่เป็นเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเหรียญที่ 4 สำหรับ คิปโชเก โดยก่อนหน้านี้เคยคว้าเหรียญทองแดงจากการวิ่ง 5,000 เมตรในโอลิมปิกเกมส์ที่เอเธนส์ ปี 2004 และ เหรียญเงินจากการวิ่ง 5,000 เมตรเช่นกันในโอลิมปิกเกมส์ที่ปักกิ่งปี 2008 มาครองแล้ว ก่อนมาได้ 2 เหรียญทองจากระยะ 42.195 กิโลเมตรในโอลิมปิก 2 หนหลัง
‘อีเค’ เพิ่งพ่ายแพ้ในการแข่งขันวิ่งมาราธอนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ในการแข่งขัน ลอนดอน มาราธอน เมื่อปีที่แล้ว โดยหล่นไปรั้งอันดับที่ 8 ของการแข่งขันอย่างเหนือความคาดหมาย แต่ในการแข่งขันที่ซัปโปโร คราวนี้นักวิ่งชาวเคนยาเริ่มทิ้งคนอื่นตั้งแต่กิโลเมตรที่ 30 และเข้าเส้นชัยแบบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย
เจ้าของสถิติโลกการวิ่งมาราธอนอย่างเป็นทางการด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที ทำสถิติดังกล่าวในเบอร์ลิน มาราธอน ปี 2018 ก่อนที่ในปีต่อมาเขาจะมาพังกำแพง 2 ชั่วโมงในการวิ่งอีเวนต์พิเศษที่ถูกจัดขึ้น แม้เวลาที่เขาทำได้จะไม่ได้ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการ แต่ในทางปฏิบัติ คิปโชเกคือมนุษย์คนแรกที่วิ่งในระยะมาราธอนได้โดยที่ทำสถิติดังกล่าวได้ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 59 นาที 40 วินาทีด้วย
อ้างอิง: