เอเลน ธอมป์สัน-เฮราห์ นักวิ่งลมกรดจากจาเมกา คว้าเหรียญทองวิ่ง 200 เมตรหญิง เมื่อวานนี้ (3 สิงหาคม) ทำให้เธอกลายเป็นนักวิ่งหญิงคนแรกที่ทำ ‘Double Twice’ หรือการคว้าเหรียญทอง 2 เหรียญในระยะสปรินต์ (100 และ 200 เมตร) ได้ติดกัน 2 สมัย
แม้จะมีชื่อคว้า 2 เหรียญทองในระยะ 100 และ 200 เมตรมาตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอเดจาเนโร เมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว แต่ชื่อของ ธอมป์สัน-เฮราห์ ยังไม่เป็นที่จดจำเท่ากับ เชลลี แอนน์ เฟรเซอร์ ไพรซ์ รุ่นพี่ในทีมชาติของเธอ จนกระทั่งเธอมาป้องกันเหรียญทองใน 2 รายการสำคัญได้ในครั้งนี้ และ THE STANDARD ก็อยากพาไปทำความรู้จักกับเธอมากขึ้นอีกสักนิดหนึ่ง
2 เหรียญทอง 2 สมัย และครองสถิติอันดับ 2 ตลอดกาล
อย่างที่รู้กันว่า เอเลน ธอมป์สัน-เฮราห์ คว้าเหรียญทองวิ่ง 100 และ 200 เมตรหญิงในริโอเกมส์ ก่อนมาป้องกันแชมป์ทั้ง 2 รายการในโตเกียวเกมส์ ทำให้เธอกลายเป็นนักวิ่งหญิงคนแรกที่ทำ Double Twice อย่างที่ได้เอ่ยไปข้างต้น แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่เธอทำได้ในโอลิมปิกคราวนี้
ราชินีลมกรดคนปัจจุบันยังครองตำแหน่งเป็นนั่งวิ่งที่ทำสถิติอันดับที่ 2 ตลอดกาล ทั้งในระยะ 100 และ 200 เมตร โดยทั้ง 2 ระยะเธอเป็นรองเพียงแค่ ‘โฟล-โจ’ ฟลอเรนซ์ กริฟฟิธ-จอยเนอร์ นักวิ่งชาวอเมริกันที่ทำเอาไว้ตั้งแต่ปี 1988 โดยสถิติระยะ 100 เมตรหญิง โฟล-โจ ทำไว้ที่ 10.49 วินาที เหนือกว่าสถิติของ ธอมป์สัน-เฮราห์ ที่ทำได้ในโตเกียวที่ 10.61 วินาที เพียง 0.12 วินาทีเท่านั้น ขณะที่สถิติ 200 เมตรหญิง กริฟฟิธ-จอยเนอร์ ทำไว้ที่ 21.34 วินาที ซึ่งเหนือกว่าของนักเจ้าของเหรียญทองจากจาเมกา ที่ทำได้ 21.53 วินาที เพียง 0.19 วินาทีเท่านั้น
โค้ชดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เอเลน ธอมป์สัน-เฮราห์ ก้าวขึ้นมาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จ คือการที่เธอมีสุดยอดโค้ชอย่าง สตีเฟน ฟรานซิส คอยให้การดูแล โดยไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น ฟรานซิสคอยดูและนักวิ่งของจาเมกามาแล้วหลายคน อาทิ เมเลน วอล์กเกอร์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก วิ่งข้ามรั้ว 400 เมตรหญิง โอลิมปิกเกมส์ ปักกิ่ง 2008, อซาฟา พาวเวลล์ เจ้าของเหรียญทองวิ่ง 4×100 เมตรชาย โอลิมปิกเกมส์ ริโอ 2016 รวมไปถึง เชลลี แอนน์ เฟรเซอร์ ไพรซ์ เจ้าของเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรหญิงที่ปักกิ่งและลอนดอน เป็นต้น
ชัยชนะเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (3 สิงหาคม) ทำให้ สตีเฟน ฟรานซิส กลายเป็นโค้ชกรีฑาที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโอลิมปิกเกมส์ จากการโค้ชให้นักกีฬาคว้าเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรได้ถึง 4 สมัย จาก เฟรเซอร์ ไพรซ์ ในปี 2008 กับ 2012 และ ธอมป์สัน-เฮราห์ ในปี 2016 กับ 2020 นอกจากนี้ยังเป็นโค้ชที่มี 2 เหรียญทองในระยะ 200 เมตรอีก 2 สมัย จากราชินีลมกรดคนปัจจุบันในปี 2016 และ 2020 ด้วย
เจ็บเกือบ 5 ปี รู้ตัวอีกทีก็ได้เหรียญทองเสียแล้ว
สิ่งที่น่ายกย่องสำหรับ ธอมป์สัน-เฮราห์ คือการที่เธอต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องหลังจากที่คว้า 2 เหรียญทองในโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล ทำให้ระหว่างปี 2017 จนมาถึงปี 2021 เธอแทบจะไม่ได้ลงแข่งขันรายการสำคัญๆ มากเท่าที่ควร ทั้งรายการชิงแชมป์โลกหรือไดมอนส์ลีก
โดยอาการบาดเจ็บครั้งสำคัญในอาชีพของเธอเกิดขึ้นในปี 2019 โดยเป็นอาการที่ทำให้เธอต้องพักไปยาวจากการบาดเจ็บเอ็นข้อเท้า อย่างไรก็ตามยังถือเป็นโชคดีที่เธอหายกลับมาทันการคัดเลือกไปแข่งขันในโอลิมปิกคราวนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากโควิดที่ทำให้การคัดเลือกถูกเลื่อนออกมาด้วย ทำให้เธอมีเวลาฟื้นฟูสภาพความฟิตและเตรียมตัวได้ทัน
วิ่ง 100 เมตรต่ำกว่า 11 วินาทีจนเป็นเรื่องปกติ
43 ครั้งคือจำนวนการวิ่ง 100 เมตรด้วยเวลาต่ำกว่า 11 วินาทีของ ธอมป์สัน-เฮราห์ ซึ่งเป็นสถิติที่น่าประทับใจมาก เพราะในปี 2008 เธอยังวิ่ง 100 เมตรทำเวลาได้เพียง 12.2 วินาทีอยู่เลย แต่หลังจากนั้นพัฒนาการของเธอก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนในปี 2015 เธอก็สามารถวิ่งต่ำกว่า 11 วินาทีในระยะ 100 เมตรได้ และนับแต่นั้นมาเธอก็ไม่เคยกลับไปวิ่งช้ากว่า 11 วินาทีในระยะนี้อีกเลย
ขณะที่ในระยะ 200 เมตร เป็นเรื่องที่น่าประทับใจกว่า เพราะสถิติที่เธอทำไว้ในปี 2010 อยู่ที่ 25.5 วินาที จนเดือนกรกฎาคมปี 2016 เธอยังวิ่งในระยะ 200 เมตรได้เพียงแค่ 23.34 วินาที ซึ่งไม่ดีพอไม่จะเข้ารอบรองชนะเลิศไปชิงแชมป์ประเทศด้วยซ้ำ แต่หลังจากนั้นเธอย่นเวลาในการวิ่งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะในเวลาเดือนเดียว ธอมป์สัน-เฮราห์ ก็สามารถวิ่งระยะ 200 เมตรได้ด้วยเวลา 21.78 วินาที ซึ่งทำให้เธอคว้าเหรียญทอง 200 เมตรหญิงในริโอเกมส์ได้สำเร็จ
จาก เอเลน ธอมป์สัน มาเป็น เอเลน ธอมป์สัน-เฮราห์
ราชินีลมกรด แต่งงานเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2019 โดยสามีของเธอเป็นอดีตนักกรีฑา และปัจจุบันก็เป็นโค้ชกรีฑาวัย 39 ปี ที่มีชื่อว่า เดอร์รอน เฮราห์ โดยพิธีถูกจัดขึ้นอย่างเป็นส่วนตัว ซึ่งนอกจากภาพที่ ธอมป์สัน-เฮราห์ ลงในอินสตาแกรมแล้วก็แทบไม่มีภาพอื่นๆ ออกมาให้เห็น
การแต่งงานในคราวนี้นี่เองที่ทำให้ชื่อของเธอเปลี่ยนจาก เอเลน ธอมป์สัน มาเป็น เอเลน ธอมป์สัน-เฮราห์ แบบที่เราเห็นในปัจจุบัน
อาจได้ดูเธอแข่งอีกรายการ
วิ่ง 4×100 เมตรหญิง เป็นเหรียญทองที่ทีมวิ่งของจาเมกา ไม่สามารถคว้ามาครองได้อย่างยาวนาน โดยครั้งสุดท้ายที่ทีมวิ่งหญิงของจาเมกาคว้าเหรียญทองวิ่ง 4×100 เมตรหญิงมาครองได้ ต้องย้อนกลับไปในโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงเอเธนส์ในปี 2004 ซึ่งนักวิ่งหญิงในชุดนั้นไม่มีใครเหลือมาถึงตอนนี้แล้ว
ในโตเกียว 2020 เป็นโอกาสดีที่สุดที่จาเมกาจะทวงเหรียญทอง 4×100 เมตรคืนจากสหรัฐอเมริกาที่ไม่มีแม่ทัพสุดแกร่งอย่าง อัลลิสัน เฟลิกซ์ เจ้าของตำแหน่งราชินีลมกรดคนเก่าอยู่ในทีม ซึ่งภายใต้เฟลิกซ์ ทัพ 4×100 ของสหรัฐฯ นอกจากจะคว้าเหรียญทองได้แล้ว ยังทำลายสถิติโลกในปี 2012 แถมยังส่งผลให้จาเมกาได้เพียงเหรียญเงินทั้งในโอลิมปิกที่กรุงลอนดอนและนครรีโอเดจาเนโร แต่ในปีนี้จาเมกามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งในปีนี้อย่าง ธอมป์สัน-เฮราห์, เชลลี แอนน์ เฟรเซอร์ ไพรซ์ รวมไปถึง เชริคกา แจ็คสัน ซึ่งถ้าทั้งหมดลงแข่งขัน 4×100 เมตรหญิงแล้ว อาจจะถึงเวลาที่จาเมกากลับมายืนหนึ่งอีกครั้งก็ได้
อ้างอิง:
- https://www.abc.net.au/news/2021-08-03/tokyo-olympics-elaine-thompson-herah-defends-200m-gold/100347766
- https://jamaica.loopnews.com/content/five-things-about-elaine-thompson-herah
- https://www.bbc.com/sport/olympics/58041334
- https://www.bbc.com/sport/olympics/58069612
- https://jamaica.loopnews.com/content/stephen-francis-resigns-mvp-head-coach
- https://barbados.loopnews.com/content/elaine-thompson-married-6