จากกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ) ได้เสนอโครงการบริหารเศรษฐกิจระยะปานกลางและระยะยาวชุดที่ 2 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมยานพาหนะไฟฟ้า เพื่อให้ประเทศไทยเป็นเมืองสะอาด
เช่น โครงการรถแลกแจกแถม โดยนำรถเก่าแลกรถใหม่ 100,000 คัน โครงการจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทยชนะ และโครงการจัดหารถโดยสารเพื่อประชาชนของ ขสมก. โดยการเช่ารถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า เป็นต้น
ดูเหมือนว่าราคาหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จะตอบรับเชิงบวกต่อประเด็นดังกล่าว โดยเฉพาะ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) ซึ่งราคาหุ้นช่วงครึ่งวันแรกของวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 เพิ่มขึ้น 12.4% แตะจุดสูงสุดที่ 15.40 บาท ก่อนที่สิ้นวันจะลดลงมาปิดที่ 14.80 บาท
ขณะที่ราคาหุ้นของ บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) อีกหนึ่งหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เพิ่มขึ้น 6.6% แตะจุดสูงสุดที่ 17.80 บาท ก่อนที่ราคาหุ้นจะลดลงมาปิดที่ 17.40 บาท
‘SAT-AH’ ราคาพุ่ง 16-38% ในรอบ 1 เดือน
เมื่อย้อนดูความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่าราคาหุ้นของทั้ง SAT และ AH ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นทั้งคู่ โดย SAT เพิ่มขึ้น 16.7% ส่วน AH เพิ่มขึ้น 38% หลังจากที่ทั้งสองบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/63 ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้
การฟื้นตัวขึ้นมาดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้นของ AH ในปัจจุบันกลับสูงกว่าราคาปิดเมื่อปี 2562 ประมาณ 23.6% ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ราคาหุ้น SAT ยังต่ำกว่าราคาปิดเมื่อปีก่อนอยู่เล็กน้อยราว 2.5%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/63 สำหรับ SAT รายงานกำไรสุทธิ 81 ล้านบาท โดยพลิกจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/63 จำนวน 143 ล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท
ด้าน AH พลิกกลับมามีกำไรสุทธิที่ 301 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิในไตรมาสก่อนที่ 631 ล้านบาท และมากกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 203 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ชี้ผลประกอบการฟื้นเร็วกว่าที่คาดไว้
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ยอดผลิตรถยนต์ครึ่งหลังปี 2563 สามารถฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดการณ์เดิม โดยในไตรมาสไตรมาส 1/64 ผู้บริหารของ SAT มองว่ายังมีโมเมนตัมคำสั่งซื้อของลูกค้าค่ายรถยนต์ต่อเนื่อง ทำให้เราปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดผลิตรถยนต์ปี 2564 เป็น 1.55 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 11% จากปีนี้ จากเดิมที่คาดไว้ 1.5 ล้านคัน แต่ยังต่ำกว่าระดับปกติที่มียอดผลิตรถยนต์ประมาณ 2 ล้านคัน
สำหรับปี 2564 SAT ได้รับคำสั่งซื้อใหม่ส่งออกไปสหรัฐฯ ประมาณ 300 ล้านบาท ช่วยเพิ่มยอดขาย 5% โดยรวมเราปรับประมาณยอดขายและกำไรปี 2564 เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายปี 2564 จะฟื้นตัวเป็น 6,785 ล้านบาท โต 15% และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 624 ล้านบาท โต 125%
เช่นเดียวกับกรณีของ AH จากคำชี้แจงงบการเงินในไตรมาส 3/63 ระบุว่า คำสั่งซื้อของลูกค้าได้กลับมาเพิ่มขึ้น และปัจจุบันบริษัทมีการดำเนินการผลิตเป็นสองกะ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเริ่มกลับมาเป็นไปตามประมาณการประจำปีที่ได้มีการปรับใหม่ และทางบริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานที่เหลือในปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น
ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินยอดผลิตรถยนต์ปีนี้เท่ากับ 1.4 ล้านคัน ทำให้ไตรมาส 4 ปีนี้ จะมียอดผลิตรถยนต์ที่ฟื้นตัวดีเท่ากับ 440,000 คัน ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสก่อน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์