องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่า การตัดสินใจลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ จะทำให้สต๊อกน้ำมันดิบลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ และมีโอกาสที่จะผลักดันให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ก่อนที่ความต้องการใช้น้ำมันจะชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจในปี 2024
อุปทานที่ลดลงจากการลดกำลังการผลิตของ OPEC+ และความต้องการใช้น้ำมันที่สูงในขณะนี้ ทำให้น้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้นสูงกว่า 88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันพฤหัสบดี (10 สิงหาคม) สูงสุดนับแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกโดยเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 103 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และอาจเพิ่มขึ้นอีกในเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ IEA คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะขยายตัว 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2023 หนุนจากการเดินทางช่วงฤดูร้อน การเพิ่มขึ้นของการใช้น้ำมันเพื่อผลิตไฟฟ้า และการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในจีน ขณะที่ OPEC คาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ราว 2.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สำหรับภาพรวมทั้งปี IEA ประเมินว่าอุปสงค์จะอยู่ที่เฉลี่ย 102.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยอุปสงค์ในส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นความต้องการจากจีนราว 70%
ขณะเดียวกัน IEA มองว่าหากเป้าหมายของ OPEC+ ยังคงเดิม ระดับสต๊อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงไตรมาส 3 และลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงไตรมาส 4 พร้อมความเสี่ยงที่ราคาจะสูงขึ้น
อ้างอิง: