บารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เตือนถึง ‘วิกฤตการเมือง’ ของสหรัฐฯ หลังการลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาจัด และเป็นหนึ่งในพันธมิตรคนสำคัญของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน โดยโอบามาระบุว่า แม้เขาจะไม่รู้จักเคิร์กและไม่เห็นด้วยกับมุมมองหลายอย่างของเขา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ‘น่าสะพรึงกลัวและเป็นโศกนาฏกรรม’
โอบามาวิพากษ์วิจารณ์คำพูดของทรัมป์ที่มีต่อคู่แข่งทางการเมือง และชี้ให้เห็นว่าอดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันคนก่อนๆ เน้นย้ำเรื่องความสามัคคีของชาติในช่วงเวลาที่ตึงเครียด โดยเขายกตัวอย่างประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ที่พยายามชี้แจงว่า “เราไม่ได้ทำสงครามกับศาสนาอิสลาม” หลังเหตุการณ์ 11 กันยายน ในขณะที่ท่าทีของทรัมป์กลับสวนทาง และมีแนวโน้มทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
โอบามายังเรียกร้องให้เกิด ‘ความสามัคคีและการเคารพความเห็นต่าง’ โดยเน้นย้ำว่าหน้าที่ของประธานาธิบดีคือการรวบรวมผู้คนเข้าด้วยกันในช่วงเวลาที่ตึงเครียด เขาสนับสนุนให้ชาวอเมริกัน ‘เคารพสิทธิของผู้อื่นที่จะพูดในสิ่งที่พวกเขาอาจไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง’ และไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง
ขณะที่โฆษกทำเนียบขาวในสมัยรัฐบาลทรัมป์ตอบโต้กลับ ด้วยการเรียกโอบามาว่าเป็น ‘สถาปนิกแห่งความแตกแยกทางการเมืองสมัยใหม่’ ทั้งยังกล่าวโจมตีโอบามาว่า เขาใช้ทุกโอกาส เพื่อสร้างความแตกแยกและทำให้ชาวอเมริกันขัดแย้งกันในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และกล่าวว่า การสร้างการแบ่งแยกของโอบามาเป็นแรงบันดาลใจให้เดโมแครตรุ่นต่างๆ ใส่ร้ายคู่แข่งทางการเมืองว่าเป็น ‘พวกเลวทราม’ รวมถึง ‘ฟาสซิสต์’ และ ‘นาซี’
หลายฝ่ายเฝ้าจับตามองว่า การสังหารเคิร์กในครั้งนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองในสหรัฐฯ ที่จะทำให้ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายตึงเครียดและรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ภาพ: Spencer Platt / Getty Images
อ้างอิง:
