NVIDIA บริษัทผู้ผลิตชิปชั้นนำระดับโลก เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 2024 พบว่าโตขึ้น 3 เท่า และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าการเติบโตในไตรมาสต่อไปจะปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบเชิงลบจากข้อจำกัดในการส่งออกที่ส่งผลต่อการขายให้กับองค์กรในจีนและประเทศอื่นๆ
Colette Kress หัวหน้าฝ่ายการเงินของ NVIDIA กล่าวในหนังสือที่ส่งถึงผู้ถือหุ้นว่า บริษัทคาดว่ายอดขายชิปจะลดลงในไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2024 อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม บริษัทย้ำว่าขณะนี้กำลังทำงานร่วมกับลูกค้าบางรายในตะวันออกกลางและจีน เพื่อขอใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สำหรับการขายผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
ทั้งนี้ รายรับของ NVIDIA อยู่ที่ 18,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 16,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 206% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 29 ตุลาคม ด้านรายรับสุทธิอยู่ที่ 9,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 27 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนที่ทำรายได้มากที่สุดก็คือรายได้จาก Data Center โดยมีมูลค่ารวม 14,510 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 279% โดยรายได้ครึ่งหนึ่งของ Data Center มาจากผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ เช่น Amazon และอื่นๆ จากหน่วยงานอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภคและบริษัทขนาดใหญ่ ขณะที่กลุ่มเกมสร้างรายได้ 2,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 81%
ด้านไตรมาส 4 NVIDIA คาดว่าบริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นการเติบโตของรายได้เกือบ 231% โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทประกาศเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ GPU GH200 ซึ่งมีหน่วยความจำมากกว่า H100 ปัจจุบัน และมีโปรเซสเซอร์ Arm เพิ่มเติมในตัว H100 ซึ่งมีราคาแพงและเป็นที่ต้องการ โดย Iris Energy ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูลการขุด Bitcoin ได้สั่งซื้อ H100 จำนวน 248 เครื่องในราคา 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง
อ้างอิง: