วันนี้ (25 ธันวาคม) เวลา 10.00 น. พล.อ. ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมารับฟังการบรรยายสรุปถึงผลการปฏิบัติและการดำเนินการในการค้นหากำลังพลที่ยังคงสูญหายจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เพื่อติดตามสถานการณ์ โดยมี พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ ร่วมรับฟังการบรรยายสรุป และตอบข้อซักถาม ณ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม
ทั้งนี้ พล.อ. ชัยชาญ ได้ฝากข้อห่วงใยของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มายังครอบครัวของกำลังพลทั้ง 15 นายที่ยังคงสูญหายว่า ขอให้กำลังใจ ทุกครอบครัว และยืนยันว่าจะดูแลให้ดี พร้อมทั้งขอบคุณกำลังพลและเจ้าหน้าที่ทุกนาย รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ทุ่มเทและมีความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน โดยขอให้คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมทั้งเน้นย้ำในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยากำลังพลและครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
สำหรับในส่วนของการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้กับผู้เสียชีวิตจะดำเนินการประกอบพิธีให้อย่างสมเกียรติ เพราะทุกนายนับได้ว่าเป็นผู้เสียสละซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
ด้าน พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในส่วนของแผนปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่สูญหาย โดยค่ำวานนี้ (24 ธันวาคม) ได้มีการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 นาย โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ ทำให้ล่าสุดคงเหลือยอดผู้สูญหายจำนวน 15 นาย ซึ่งในวันนี้กำลังทางเรือและอากาศยานยังคงดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือในพื้นที่ที่รับมอบหมายอย่างต่อเนื่องทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำ โดยมีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบจำนวน 20 พื้นที่ ในขณะที่พื้นที่ตามแนวชายฝั่งก็ยังคงมีการจัดชุดลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย
สำหรับการตรวจพบคราบน้ำมันลอยขึ้น ในบริเวณจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมนั้น ในขณะนี้กองทัพเรือได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องมาจากน้ำมัน กองทัพเรือ (ศอปน.ทร.) ขึ้นมาติดตามคราบน้ำมันในทะเล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เพื่อเตรียมการในการขจัดคราบน้ำมันต่อไป
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ณ วันที่ 25 ธันวาคม) เวลา 11.00 น.
ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิตจำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 14 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 6 นาย คงเหลืออีก 8 นายที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล
ในขณะที่อีก 1 ร่างที่เก็บกู้ร่างขึ้นมาได้วานนี้ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ และอยู่ในระหว่างของการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (1 ร่างนี้ยังไม่ตัดยอดออกจากผู้สูญหาย) คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 15 นาย