มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ เคน-นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ บรรณาธิการบริหาร THE STANDARD ตอบคำถามในทุกประเด็นเกี่ยวกับการผลิตและส่งมอบวัคซีน AstraZeneca ของสยามไบโอไซเอนซ์
THE STANDARD: มีข่าวว่าจะส่งมอบวัคซีน AstraZeneca ไม่ทัน จริงเท็จแค่ไหน
มาดามแป้ง: ก่อนอื่นต้องแยกก่อนว่าจริงๆ แล้วสยามไบโอไซเอนซ์คือผู้รับจ้างผลิตวัคซีน ซึ่งเราได้รับการติดต่อจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและบริษัท AstraZeneca มาดูโรงงานของสยามไบโอไซเอนซ์ หลังจากการดูคุณภาพต่างๆ แล้วทางมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและบริษัท AstraZeneca ก็ได้ตัดสินใจเลือกสยามไบโอไซเอนซ์เป็นผู้ผลิตวัคซีน AstraZeneca ซึ่งแน่นอนว่าคู่สัญญาของเราคือ AstraZeneca เรามีหน้าที่ผลิตวัคซีนให้ได้ตามมาตรฐานที่ AstraZeneca วางไว้
THE STANDARD: กระบวนการก่อนที่จะเลือกสยามไบโอไซเอนซ์เกิดจากอะไร
มาดามแป้ง: สยามไบโอไซเอนซ์ ก่อตั้งเมื่อปี 2552 เติบโตมาจากการผลิตยาชีววัตถุ เช่น ยากระตุ้นเม็ดเลือดขาว ยากระตุ้นเม็ดเลือดแดง ซึ่งสยามไบโอไซเอนซ์เป็นบริษัทเดียวในภูมิภาคที่สามารถผลิตยาได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งในวงการยารู้จักบริษัทนี้เป็นอย่างดี เพียงแต่ไม่ค่อยทำพีอาร์จึงไม่มีใครรู้จัก เรามีคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเป็นกรรมการ และลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท
ส่วนทำไมถึงต้องเป็นสยามไบโอไซเอนซ์ คิดว่าเขาคงหามาเยอะแล้ว ส่วนคำตอบที่เคยได้ยินจากผู้บริหาร AstraZeneca คือมั่นใจว่าบริษัทนี้น่าจะรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่ AstraZeneca ไปเลือกโรงงานการผลิตที่เกาหลีใต้และอิตาลี
แน่นอนข่าวลือมากมายเกี่ยวกับวัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ว่าเป็นวัคซีนที่ด้อยคุณภาพ มีข่าวลือมากมายว่าคนงานโดนไล่ออก ขอพูดที่ THE STANDARD ว่าเป็นข่าวปลอมทั้งหมด ทั้งนี้วัคซีนนี้ถูกส่งไปตรวจสอบคุณภาพที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกา วัคซีนนี้ AstraZeneca นำไปขายทั่วโลก แน่นอนว่าเราต้องผ่านหลักเกณฑ์ระดับโลก ยืนยันวัคซีนได้มาตรฐานแน่นอน
THE STANDARD: บางคนถามว่าการเลือกสยามไบโอไซเอนซ์ผลิตวัคซีนในประเทศไทยคือการแทงม้าตัวเดียวหรือไม่
มาดามแป้ง: ประเด็นแทงม้าตัวเดียวเป็นประเด็นของผู้ตัดสินใจซื้อวัคซีน ซึ่งไม่เกี่ยวกับสยามไบโอไซเอนซ์ และถ้าตอบกันตรงๆ แป้งก็คิดว่าม้าตัวนั้นมันก็ไม่ควรจะมีตัวเดียวเช่นกัน อันนี้พูดตรงไปตรงมา เพราะหน้าที่ในการสั่งซื้อวัคซีนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสยามไบโอไซเอนซ์
THE STANDARD: ส่งมอบทันหรือไม่
มาดามแป้ง: วันนี้ (2 มิถุนายน) จริงๆ แล้วในสัญญาคือส่งมอบล็อตแรกในเดือนมิถุนายน ที่มีข่าวว่าสยามไบโอไซเอนซ์ส่งมอบล่าช้าให้กับ AstraZeneca นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ที่ผ่านมาเราไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไรเลย เพราะคิดว่าคำตอบสุดท้ายคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุด คือการส่งมอบวัคซีนได้ตามสัญญาระหว่างสยามไบโอไซเอนซ์กับ AstraZeneca
THE STANDARD: ถ้าตามที่รัฐบาลเคยประกาศออกมาว่าจะส่งมอบวัคซีนเดือนมิถุนายน 6 ล้านโดส แต่เดือนต่อๆ ไปอีก 10 ล้านโดส ในสัญญามีอย่างนั้นหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุว่า ไม่ได้ระบุตัวเลขชัดเจน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
มาดามแป้ง: การส่งมอบวัคซีนของสยามไบโอไซเอนซ์มีหน้าที่ส่งมอบให้ทันตามสัญญาที่มีกับ AstraZeneca ส่วนสัญญาระหว่าง AstraZeneca กับรัฐบาลไทยไม่สามารถไปก้าวล่วงในสัญญานั้นได้
THE STANDARD: สัญญาระหว่างสยามไบโอไซเอนซ์กับ AstraZeneca ต้องส่งมอบกี่ล้านโดสในเดือนมิถุนายนนี้
มาดามแป้ง: สัญญานี้เป็นสัญญา Non-Disclosure ถ้าตอบตรงๆ เลยคือเราส่งมอบวัคซีนที่มีไว้กับ AstraZeneca อย่างแน่นอน แต่ไม่สามารถบอกตัวเลขได้เพราะเป็นสัญญา Non-Disclosure
THE STANDARD: การส่งมอบวันนี้ (2 มิถุนายน) จำนวน 1.8 ล้านโดส ถือว่าล่าช้ากว่ากำหนดหรือเป็นไปตามกำหนด
มาดามแป้ง: ในสัญญาระบุว่าภายในเดือนมิถุนายน มันอาจจะพูดได้ตั้งแต่ 1-30 มิถุนายน
THE STANDARD: กำหนดการที่จะส่งมอบอีกทีมันเป็นอย่างไร มีกำหนดไว้หรือไม่ สามารถบอกความถี่ได้หรือไม่ เพราะหากส่งอีกทีวันที่ 30 มิถุนายนเลย คนไทยก็จะได้ฉีดวัคซีนล่าช้าออกไป
มาดามแป้ง: ในฐานะผู้อำนวยการการฝ่ายสื่อสารสยามไบโอไซเอนซ์ ไม่สามารถการันตีแทนคนไทยได้ แต่สามารถการันตีกับ AstraZeneca ได้ว่าจะส่งมอบได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญากับ AstraZeneca อย่างแน่นอน ส่วนสัญญาระหว่าง AstraZeneca กับรัฐบาลไทยก็เป็นอีกสัญญาหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ เพราะฉะนั้นตอบแทนคนไทยไม่ได้ว่าจะได้ฉีดกี่โดส วันไหน อย่างไร
พี่แป้งคงไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ว่ารัฐบาลไทยได้สั่งซื้อวัคซีน AstraZeneca ไปสองล็อต ล็อตแรก 26 ล้านโดส ล็อตสอง 35 ล้านโดส ทั้งหมดทั้งมวลรัฐบาลไทยสั่งวัคซีนจาก AstraZeneca ไม่ได้เกี่ยวพันกับสยามไบโอไซเอนซ์เลย
สยามไบโอไซเอนซ์มีหน้าที่ผลิตวัคซีนจำนวน X โดสในเดือนมิถุนายน จำนวน Y โดสในเดือนกรกฎาคม จำนวน Z โดสในเดือนกันยายน เราส่งให้ AstraZeneca ตามสัญญา ถามว่าเราจะไปการันตีประชาชนแทน AstraZeneca และรัฐบาลได้ไหม เราไม่ใช่รัฐบาล เราเป็นผู้รับจ้างผลิตวัคซีนให้กับ AstraZeneca
THE STANDARD: สำนักข่าว Reuters รายงาน ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า วัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในไทยเกิดความล่าช้าไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด เป็นสัญญาณอะไรที่บอกว่าเราผลิตไม่ทันหรือไม่
มาดามแป้ง: ประเด็นนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นเรื่องระหว่างฟิลิปปินส์กับ AstraZeneca แต่ถามว่าวัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ถือว่าเป็นสิทธิของ AstraZeneca ที่สามารถส่งออกไปในประเทศอาเซียนในอีก 8 ประเทศได้เช่นกัน
THE STANDARD: มีการเปิดเผยว่ารัฐบาลไทยให้เงินอุดหนุนสยามไบโอไซเอนซ์ 600 ล้านบาท และต้องคืนในรูปแบบของวัคซีน อยากให้อธิบายว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
มาดามแป้ง: จริงๆ แล้วเงิน 600 ล้านบาทที่รัฐบาลให้ ซึ่งลักษณะของทุนประเภทนี้เรียกว่าทุนพัฒนาศักยภาพ หรือ Capacity Building เพื่อเตรียมความพร้อมการผลิตวัคซีนโดยการให้ทุนลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องปฏิบัติปกติในแทบจะทุกประเทศ โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้ทุนลักษณะนี้ไปมากกว่า 10 บริษัท รวมเป็นเงินมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอังกฤษและยุโรปก็มีทุนลักษณะนี้เช่นกัน อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในช่วงเกิดโรคระบาดในการให้ทุนวิจัยนี้กับบริษัทที่มีศักยภาพก็ว่าได้
ในวันที่เราได้ทุนนี้จากรัฐบาล คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณ 600 ล้านบาทสำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ส่วนอีก 400 ล้านบาทได้ให้กับจุฬาฯ เพื่อผลิตวัคซีนโควิด-19 และหลังจากนั้นคณะรัฐมนตรีก็มีมติออกมาอีกหลายครั้ง และได้มอบทุนเหล่านี้อีก 5-6 บริษัท ซึ่งต้องไปเปิดมติคณะรัฐมนตรีดูเอาเอง เพราะจะมีเขียนเอาไว้
จริงแล้วเรากลัวว่าปัญหาทุน 600 ล้านบาท ซึ่งจริงๆ ในเมืองนอกเป็นทุนยิงทิ้งยิงขว้างด้วยซ้ำ แต่เราได้ระบุไว้ในสัญญาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าสยามไบโอไซเอนซ์สามารถผลิตวัคซีนนี้ได้ และได้รับการอนุมัติให้ใช้งานในวงกว้าง สยามไบโอไซเอนซ์จะคืนเงินทุนเป็นวัคซีน โดยสยามไบโอไซเอนซ์จะเอาเงินไปซื้อวัคซีน AstraZeneca มาคืนกับรัฐบาลไทยภายใน 1 ปีหลังปิดโครงการ