ธุรกิจอาหารทางเลือกกำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในปัจจุบัน และหลายบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้กระโจนเข้าสู่ตลาดนี้ จนเกือบจะกลายเป็น Red Ocean เข้าไปทุกที
บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ หรือ NRF หนึ่งในผู้เล่นรายหลักในตลาดอาหารทางเลือก เดินหน้าประกาศกลยุทธ์ 3 ปีจากนี้ ขยับชั้นขึ้นเป็นผู้ลงทุนในกิจการด้านอาหารทางเลือก โดยเน้นกิจการที่เป็นอันดับต้นๆ ของแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลกอย่าง Amazon โดยแผน 3 ปีจากนี้ (2021-2023) จะใช้งบลงทุนราว 2 พันล้านบาท เพื่อสร้าง EBITDA ราว 1 พันล้านบาท
แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า ดีลซื้อกิจการแรกที่เกิดขึ้นเพื่อสอดรับกลยุทธ์ดังกล่าวคือการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายใต้แบรนด์ Prime Labs ซึ่งดำเนินธุรกิจอาหารเสริมสำหรับผู้ชายวัย 45 ปีขึ้นไป ซึ่งมียอดขายอันดับ 1 ในเว็บไซต์ Amazon.com โดยดำเนินการผ่านบริษัท Boosted NRF Corporation ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (Joint Venture: JV) ระหว่างบริษัท เอ็นอาร์เอฟ คอนซูเมอร์ (บริษัทย่อยที่ NRF) ถือหุ้น 55% กับบริษัท Boosted Ecommerced, Inc ซึ่งเป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกา
การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) จะเป็นโมเดลการขยายธุรกิจของ NRF เพื่อขยายฐานธุรกิจด้าน E-Commerce โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ ประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และสิงคโปร์ เพื่อร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เหมือนเช่นโมเดลในสหรัฐอเมริกา โดยทุนจดทะเบียนเริ่มต้นของ JV จะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านดอลลาร์
การส่ง JV เข้าซื้อกิจการของผู้ผลิตสินค้า จะเน้นกลุ่ม Ethic Food, Plant-Based Food, Functional Food โดยจะคัดเลือกบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขัน มียอดขายที่ดีในแพลตฟอร์ม E-Commerce มี EBITDA อย่างน้อย 3 แสน – 3 ล้านดอลลาร์ และราคาในการเข้าซื้อกิจการต้องไม่เกิน 3.5 เท่า
“JV กับพันธมิตรที่อเมริกาเป็นดีลที่สามารถสร้างการเติบโตให้กับ NRF อย่างมาก บริษัทจึงได้เพิ่มขนาดเงินลงทุนเป็น 17 ล้านดอลลาร์ หรือราว 508 ล้านบาท จากวงเงินเดิมที่จัดสรรไว้ 7 ล้านดอลลาร์ หรือราว 209.5 ล้านบาท”
แดนกล่าวว่า เพื่อสร้างการเติบโตดังกล่าว บริษัทจึงออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินรวมไม่เกิน 2 พันล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในวันที่ 22 เมษายนนี้
“เงินระดมทุนก้อนนี้เป็นคนละก้อนกับเงิน IPO ซึ่งการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะใช้เพื่อลงทุนในบริษัทร่วมทุนในต่างประเทศในระยะ 3 ปีจากนี้ ซึ่งคาดหวังว่าจะสร้าง EBITDA กลับมาราว 1 พันล้านบาท”
สำหรับปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการขายเติบโต 20% จากปี 2563 ที่มีรายได้จากการขาย 1,408 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตผ่าน 3 ธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-Based Food) ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นแตะ 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 8% หลังมีกระแสความนิยมการบริโภคทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย นอกจากนี้จะเริ่มรับรู้รายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทาง E-Commerce ของ Amazon เป็นปีแรก
“การเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ และการเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุน จะเป็นส่วนที่ช่วยให้ NRF ต่อยอดผลิตภัณฑ์ในอนาคต เบื้องต้นวางเป้าหมายรายได้ 3 ปีจากนี้แตะ 3 พันล้านบาท แต่ก็มีแนวโน้มจะถึงเป้าหมายเร็วกว่าที่คาดหวังไว้”
ทั้งนี้ NRF ดำเนินธุรกิจผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล