วันนี้ (18 มิถุนายน) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือถึงอธิบดีศาลอาญา เพื่อขอให้ศาลอาญามีคำสั่งให้ไต่สวนการเสียชีวิตของเนติพรที่ศาลอาญาตามกฎหมาย
ด้วยเหตุผลทางข้อเท็จจริงที่ครอบครัวได้รับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ทำให้เชื่อว่าเนติพรเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตั้งแต่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลอาญาแล้ว
กฤษฎางค์กล่าวว่า จนขณะนี้ครอบครัวยังไม่ได้รับคลิปวงจรปิดวันเสียชีวิตของเนติพรจากกรมราชทัณฑ์เพิ่มเติม แต่ผลจากการชันสูตรพลิกศพของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติถือว่าครบถ้วนแล้ว ซึ่งตนก็จะไปขอรับมาหลังจากนี้
ที่ในวันนี้ตนมายื่นหนังสือถึงอธิบดีศาลอาญาเนื่องจากเนติพรถูกคุมขังในคดีภายใต้การดูแลของศาลอาญานี้และได้เสียชีวิตไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ตนจึงทำหนังสือถึงอธิบดีศาลอาญาให้ท่านมีคำสั่งให้ไต่สวนการเสียชีวิตของเนติพร ซึ่งอยู่ในขอบเขตอำนาจของศาลอาญา และศาลอาญามีอำนาจที่จะพิจารณาคดีนี้อยู่แล้ว
กฤษฎางค์กล่าวต่อว่า หลังจากกรมราชทัณฑ์กับกรรมาธิการกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรส่งหนังสือถึงทนายความ ตนก็ได้ส่งเอกสารและสำเนาบัตรประชาชนของตนและครอบครัวเนติพรเพื่อใช้ประกอบการรับคลิปวงจรปิดไปแล้ว และเมื่อวานนี้ (17 มิถุนายน) มีรายงานว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะอยู่ระหว่างตรวจสอบนานเท่าไร
สำหรับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้ให้หลักฐานตั้งแต่วันที่ร่างของบุ้งไปถึง การที่เราต้องการภาพกล้องวงจรปิดในห้องที่เนติพรเสียชีวิต เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าสิ่งที่กรมราชทัณฑ์พูดมาตลอดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ มีการช่วยเหลือปฐมพยาบาลหรือไม่ มีการกู้ชีพอย่างไร
กฤษฎางค์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าจะให้เอกสารหลักฐานมาโดยตลอด แต่ตนก็ยังไม่แน่ใจว่าจะยื่นภายในเมื่อใด แต่ทั้งนี้ถ้าศาลอาญารับจดหมายยื่นขอความเป็นธรรมจากตนก็จะสามารถออกคำสั่งให้กรมราชทัณฑ์นำหลักฐานส่วนนั้นให้กับครอบครัวได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงยุติธรรมมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบในกรณีนี้
กฤษฎางค์กล่าวอีกว่า หากถามความเห็นของตนโดยหลักของกฎหมายที่ยุติธรรม กรณีทักษิณต้องถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์และต้องได้รับการประกันตัวปล่อยตัวชั่วคราว เหมือนกับเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ที่ต้องได้รับการประกันตัวเช่นกัน
“วันนี้จะเป็นบทพิสูจน์หนึ่งของกระบวนการยุติธรรมว่าดุลพินิจของการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นตามหลักของกฎหมาย หรือเป็นไปตามหลักของอำเภอใจหรือเป็นไปตามหลักความเชื่อทางการเมืองของคนตัดสิน”
กฤษฎางค์กล่าวอีกว่า ตนยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะมายื่นประกันตัวเยาวชนในคดีนี้เช่นเดียวกับทักษิณ แต่ก็กลับมาตรงกับวันที่ทักษิณขอยื่นประกันเช่นเดียวกับเยาวชนทั้ง 12 คนที่ตนเดินทางมายื่นขอประกันในคดีมาตรา 112 ที่ผ่านมาศาลให้เหตุผลว่าไม่ประกันเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ซึ่งทางทนายความยืนยันมาตลอดว่าจะไม่มีการหลบหนี พวกเขาเป็นเพียงนักศึกษาระดับปริญญาโท ไม่มีแม้แต่เครื่องบินส่วนตัวที่จะหลบหนี
เยาวชนผู้ต้องหาต้องการออกมาต่อสู้คดีเท่านั้น ถ้าถามความเห็นตน ทักษิณก็ต้องมีสิทธิ์ได้ประกันตัว เว้นแต่มีพฤติการณ์หลบหนี เพราะตามรัฐธรรมนูญหรือประมวลอาญาก็ดี การควบคุมขังไว้ระหว่างพิจารณาคดีทำไม่ได้เว้นแต่ป้องกันการหลบหนีเท่านั้น
เมื่อถามว่าวันนี้ที่มายื่นประกันตัวเยาวชนในคดีมาตรา 112 คาดหวังว่าถ้าทักษิณได้ประกันลูกความของตนจะได้ประกันหรือไม่ กฤษฎางค์กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าเป็นคนละส่วนกัน แต่ตนก็เชื่อว่าผู้ที่ระหว่างนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีไม่มีใครควรถูกคุมขัง