เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) เกิดเหตุระทึกราวกับหนังชีวิต เมื่อกล้องวงจรปิดบันทึกภาพทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่งพยายามที่จะหนีข้ามพรมแดนมายังเกาหลีใต้
เขาโยกคันเร่งรถจี๊ปทหาร ขับทะยานด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าสู่เขตปลอดทหาร (DMZ) บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ก่อนที่จะเคราะห์ร้าย รถจี๊ปที่ขับมาเกิดติดหล่มและมีปัญหาที่ล้อรถ เขาจึงตัดสินใจวิ่งลงจากรถและวิ่งตรงเข้าสู่พื้นที่ของเกาหลีใต้ในทันที
ทหารเกาหลีเหนือที่ประจำการอยู่ในบริเวณนั้นต่างช่วยกันยิงสกัดเขา กระสุนยิงถูกร่างของทหารเกาหลีเหนือที่คิดแปรพักตร์อย่างน้อย 5 นัด ก่อนที่เขาจะใช้ความพยายามฮึดสุดท้ายเข้าเขตของเกาหลีใต้มาได้ ก่อนที่จะสลบลงบนกองใบไม้ข้างกำแพงแห่งหนึ่ง
กล้องอินฟาเรดจับภาพทหารเกาหลีใต้ 2 นายพยายามช่วยกันดึงร่างของทหารเกาหลีเหนือที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแผลถูกยิง ก่อนที่เขาจะได้รับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลภายใต้การช่วยเหลือของกองทัพเกาหลีใต้
แพทย์ผู้ทำการรักษาเผยว่า นายทหารหนุ่มเกาหลีเหนือวัย 24 ปีที่พยายามหนีข้ามพรมแดนประเทศมายังเกาหลีใต้นี้มีอาการติดเชื้อและตรวจพบปรสิตจำนวนมากภายในลำไส้ของเขา ขณะที่แพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาลูกกระสุนบริเวณช่องท้องออก ซึ่งในรายงานระบุว่า ปรสิตที่พบมีขนาดยาวถึง 11 นิ้ว ซึ่งการตรวจพบปรสิตนี้สะท้อนปัญหาด้านสุขอนามัยในเกาหลีเหนือที่ค่อนข้างน่าวิตกกังวล
นพ.ปีเตอร์ โฮเทซ คณบดีประจำ National School of Tropical Medicine ระบุว่า “คาดการณ์ว่าชาวเกาหลีเหนือกว่า 5 ล้านคน มีปรสิตชนิดนี้อยู่ภายในลำไส้ ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมดเลยทีเดียว”
โดยทั่วไปไข่ของปรสิตชนิดนี้มักพบได้ในดิน โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนาที่ใช้ของเสียจากมนุษย์แทนปุ๋ยที่มีราคาแพง ไข่ปรสิตส่วนใหญ่จะฟักเป็นตัวอ่อนในลำไส้เล็ก ซึ่งสามารถโตและยาวขึ้นได้มากกว่า 13 นิ้ว แม้ว่าผู้ที่ติดเชื้อและมีปรสิตชนิดนี้อยู่ภายในจะไม่แสดงอาการผิดปกติที่ชัดเจน แต่ถ้าหากปรสิตชนิดนี้เกิดและเติบโตขึ้นภายในตัวของเด็ก จะทำให้เด็กเหล่านั้นมีพัฒนาการช้าและตัวเตี้ย “แทนที่คุณจะเลี้ยงลูก คุณอาจจะกำลังเลี้ยงปรสิตเหล่านี้ เพราะพวกมันจะแย่งสารอาหารที่มีประโยชน์จากลูกๆ ของคุณ”
แต่อาการที่น่าเป็นห่วงมากกว่าการติดเชื้อจากปรสิต คือ เขามีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอาจลุกลามกลายเป็นภาวะตับแข็งและเสียชีวิตได้ในที่สุด
ทางโรงพยาบาลเผยว่า อาการของเขาไม่แตกต่างจากผู้ลี้ภัยและบรรดาชาวเกาหลีเหนือที่ตัดสินใจแปรพักตร์ข้ามพรมแดนมาเพื่ออิสรภาพในการดำเนินชีวิตก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนใหญ่มักตรวจพบอาการดังกล่าว
โดยทีมแพทย์เกาหลีใต้กำลังพยายามช่วยเหลือนายทหารหนุ่มเกาหลีเหนือนายนี้อย่างสุดความสามารถ
ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีชาวเกาหลีเหนือพยายามหนีข้ามพรมแดนปีละมากกว่า 1,000 คน ซึ่งหากนับตั้งแต่สงครามเกาหลีเหนือ (ในปี 1953) สิ้นสุดลง มีผู้แปรพักตร์แล้วอย่างน้อย 30,000 คน
อ้างอิง: