สื่อต่างประเทศรายงานว่า หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (13 เมษายน) ทำให้เกิดความสับสนในญี่ปุ่น โดยรัฐบาลจังหวัดฮอกไกโดได้ออกคำสั่งให้ประชาชนหาที่หลบภัย ก่อนที่จะเพิกถอนคำสั่งภายใน 30 นาที
ทางการแถลงในภายหลังว่า ขีปนาวุธไม่ได้ตกลงใกล้เกาะ และได้ยกเลิกการแจ้งเตือนในเวลาต่อมา ขณะที่โรงเรียนในฮอกไกโดเลื่อนเวลาเปิดเรียน และบริการรถไฟบางสายถูกระงับ ตามการรายงานของสถานีโทรทัศน์ NHK
ขณะเดียวกันหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นกล่าวว่า ขีปนาวุธลอยตกลงไปในน่านน้ำทางตะวันออกของเกาหลีเหนือ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าขีปนาวุธบินผ่านเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นหรือไม่
ด้านกองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวบินออกไปได้ไกลประมาณ 1,000 กิโลเมตร และดูเหมือนจะเป็นขีปนาวุธชนิดใหม่ โดยอาจเป็นจรวดเชื้อเพลิงแข็ง ซึ่งเคยถูกนำมาแสดงในการสวนสนามแสดงแสนยานุภาพทางทหารของเกาหลีเหนือเมื่อไม่นานมานี้
“จนถึงขณะนี้เราประเมินว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธชนิดใหม่ที่มีพิสัยกลางหรือข้ามทวีป” เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าว “เรายังคงวิเคราะห์รายละเอียดต่างๆ เช่น วิถีโคจร ระดับความสูง และพิสัย โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นจรวดเชื้อเพลิงแข็ง”
กองทัพเกาหลีใต้เรียกการกระทำดังกล่าวของเกาหลีเหนือว่า ‘เป็นการยั่วยุอย่างร้ายแรง’ และกล่าวว่า ทางกองทัพกำลังเฝ้าระวังในระดับสูง พร้อมทั้งประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรหลักอย่างสหรัฐฯ ซึ่งประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำของเกาหลีเหนือ ซึ่งทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า เป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล
ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ประชาชนที่อยู่อาศัยทางตอนเหนือของญี่ปุ่นตื่นขึ้นมาด้วยเสียงไซเรนและข้อความเตือนให้หาที่หลบภัย หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่น ขีปนาวุธลูกดังกล่าวลอยไปไกล 4,500 กิโลเมตร ก่อนตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไปแล้ว 27 ลูกในปีนี้ ซึ่ง โยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น กล่าวว่า การยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องของเปียงยางก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของญี่ปุ่น และกำลังเข้าใกล้ญี่ปุ่นเข้ามาเรื่อยๆ
ด้าน เอเดรียน วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า การยิงจรวดครั้งล่าสุดนี้ เพิ่มความตึงเครียดและความเสี่ยงที่จะทำลายเสถียรภาพของสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค
การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เพิ่งสั่งให้กองทัพโสมแดงป้องปรามสงครามในทางปฏิบัติและรุกรานมากขึ้น ตามรายงานของสำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลี
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือไม่รับโทรศัพท์สายด่วนวันละ 2 ครั้งจากเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้รัฐบาลในกรุงโซลกังวล เพราะตามปกติแล้ว สองเกาหลีจะติดต่อสายด่วนทางทหารในเวลา 09.00 น. และ 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (07.00 น. และ 13.00 น. ตามเวลาไทย) ของทุกวัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการปะทะกันตามแนวชายแดนของประเทศ
สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่มีความสำคัญสำหรับเกาหลีเหนือ เนื่องจากจะมีการเฉลิมฉลองการขึ้นครองอำนาจปีที่ 11 ของ คิมจองอึน โดยปกติแล้ว เกาหลีเหนือจะเฉลิมฉลองวันครบรอบเหล่านี้ด้วยการแสดงความก้าวหน้าทางทหาร
นอกจากนี้การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดยังมีขึ้น 2 วันก่อนวันคล้ายวันเกิดของ คิมอิลซุง บิดาผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นวันหยุดประจำปีที่สำคัญที่สุดของประเทศ
แฟ้มภาพ: Kim Jae-Hwan / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: