เว็บไซต์ที่ติดตามประเด็นเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดอย่าง 38 North เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือกำลังเร่งปรับปรุงและเดินหน้าพัฒนาศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ยองเบียน (Yongbyon Nuclear Scientific Research Center) ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดพย็องอันเหนือ ห่างจากกรุงเปียงยางเป็นระยะทางราว 100 กิโลเมตร แม้ว่าผู้นำเกาหลีเหนืออย่างคิมจองอึนจะลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับสหรัฐฯ ยินดีจะเดินหน้ายุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ภายในประเทศที่สิงคโปร์ เมื่อ 12 มิถุนายนที่ผ่านมาก็ตาม
แต่เนื่องจากไม่ได้มีการระบุขั้นตอน วิธีการ รวมถึงกรอบระยะเวลาในการปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ที่ชัดเจน อาจทำให้ซัมมิตตทรัมป์-คิมที่เกิดขึ้นมีช่องโหว่ และประสบความล้มเหลวในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีแห่งนี้
ภาพถ่ายดาวเทียมไม่เพียงแต่จะบ่งชี้ว่า โครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมีการเดินหน้า แต่ยังรวมถึงมีการปรับปรุงและซ่อมแซมตัวอาคารของศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลีเหนือ รวมถึงก่อสร้างโรงเก็บแร่ยูเรเนียม โรงไฟฟ้าและออฟฟิศนักวิจัยและวิศวกรภายในนั้นอีกด้วย
ก่อนหน้าที่ซัมมิตทรัมป์-คิมจะเกิดขึ้น เกาหลีเหนือเคยระเบิดศูนย์วิจัยและพื้นที่ทดลองอาวุธนิวเคลียร์ปุงเกรี (Punggye-ri) ที่เคยใช้เป็นสถานที่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มาแล้วถึง 6 ครั้ง เพื่อแสดงเจตจำนงค์ให้ประชาคมโลกรับรู้ว่า โสมแดงมีความตั้งใจที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ หากมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ มอบหลักประกันทางสังคมและเศรษฐกิจให้แก่เกาหลีเหนือได้
ทางด้านโดนัลด์ ทรัมป์ เองก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนโทนเสียงที่มีต่อเกาหลีเหนือ หลังจากเคยทวีตข้อความหลังซัมมิตทรัมป์-คิม จบลงว่า “จะไม่มีภัยอันตรายเรื่องอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนืออีกต่อไป” แต่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวต่อสภาคองเกรสว่า “เกาหลีเหนือยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ นโยบายต่างประเทศและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ที่มีต่อเกาหลีเหนือจะยังคงถูกใช้ต่อไป”
การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือโดยสมบูรณ์จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือที่ผ่านมาเป็นเพียงการเดินหมากตบตาประชาคมโลกของผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ต้องติดตาม!
อ้างอิง: