สื่อต่างชาติหลายสำนักพากันจับตามองความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ หลังปรากฏรายงานการปิดสถานทูตในหลายประเทศช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือพร้อมที่จะปิดสถานทูตในกว่า 10 แห่ง รวมถึงสเปน ฮ่องกง และอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา คิดเป็นกว่า 25% ของสถานทูตเกาหลีเหนือทั่วโลก
ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ (30 ตุลาคม) สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำแองโกลาและยูกันดาเข้าอำลาต่อผู้นำของประเทศดังกล่าว โดยสื่อท้องถิ่นของทั้งสองประเทศมีรายงานข่าวการปิดสถานทูตเกาหลีเหนือ
ขณะที่แองโกลาและยูกันดามีความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ปี 1970 โดยยังคงรักษาความร่วมมือทางทหาร และให้ความช่วยเกาหลีเหนือด้านแหล่งรายได้เงินตราต่างประเทศ เช่น โครงการก่อสร้างรูปปั้น
ทางด้านกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ให้ความเห็นวานนี้ (31 ตุลาคม) ว่าเหตุผลในการปิดสถานทูตและยุติการทำหน้าที่ของคณะผู้แทนทางการทูต เป็นสัญญาบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือกำลังเผชิญปัญหาความลำบากในการสร้างรายได้ในต่างประเทศ เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่เผชิญอยู่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจำกัดเงินทุนสำหรับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
แชด โอ แคร์โรลล์ (Chad O’Carroll) ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ NK Pro ที่เน้นข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือให้ความเห็นว่า การปิดสถานทูตของเกาหลีเหนือถือเป็นการปูทางสำหรับสิ่งที่อาจเป็น “การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของเกาหลีเหนือในรอบหลายทศวรรษ” ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือทางการทูต และงานด้านมนุษยธรรมในประเทศที่อยู่ห่างไกล ตลอดจนกระทบความสามารถในการสร้างรายได้ที่ถูกห้ามจากมาตรการคว่ำบาตร
โดยเขายังมองว่าการปิดสถานทูตกว่า 10 แห่งของเกาหลีเหนืออาจเป็นผลทั้งจากมาตรการคว่ำบาตร ตลอดจนแนวโน้มที่เปียงยางจะแยกตัวออกห่างจากประชาคมโลก และอาจเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจเกาหลีเหนือกำลังอ่อนแอลง
ปัจจุบันเกาหลีเหนือมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับ 159 ประเทศ แต่มีสถานทูต 53 แห่งในต่างประเทศ รวมถึงสถานกงสุล 3 แห่ง และสำนักงานตัวแทน 3 แห่ง ก่อนจะถอนตัวออกจากแองโกลาและยูกันดา
ขณะที่สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือจะปิดสถานทูตในสเปน และให้สถานทูตในอิตาลีเข้ารับผิดชอบกิจการต่างๆ
อ้างอิง :
