สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีกำลังร้อนระอุ หลังจากเมื่อวานนี้ (2 พฤศจิกายน) เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 23 ลูกในวันเดียว เนื่องจากไม่พอใจที่กองทัพสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เปิดฉากการซ้อมรบร่วมภายใต้ปฏิบัติการ Vigilant Storm ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (31 ตุลาคม) แถมยังขู่ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อทำให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ‘ต้องจ่ายให้กับบทเรียนราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์’
ด้านเกาหลีใต้ไม่รอช้า โดยหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธระลอกแรกเพียงไม่กี่ชั่วโมง กองทัพก็ได้ส่งเครื่องบินรบยิงขีปนาวุธแบบอากาศสู่พื้นไปทางฝั่งเส้นแบ่งเขตทางทะเลของเกาหลีเหนือ เพื่อเป็นการตอบโต้แบบทันควัน หลังจากนั้นเกาหลีเหนือก็ยังไม่หยุดการยั่วยุ โดยมีการระดมยิงปืนใหญ่หลายร้อยนัด และมีการยิงขีปนาวุธเพิ่มอีกระลอกในช่วงเย็น
ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ (3 พฤศจิกายน) ยังมีรายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอีกอย่างน้อย 3 ลูกด้วย
ล่าสุดนั้นสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ตกลงกันเรียบร้อยว่า ทั้งสองชาติจะขยายการซ้อมรบร่วมออกไปอีก จากเดิมที่จะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ (4 พฤศจิกายน) เพราะต้องการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านการป้องกันประเทศที่แข็งแกร่งของเกาหลีใต้และพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ภายใต้แรงยั่วยุจากเกาหลีเหนือ
การตอบโต้กันไปมาระหว่างสองชาติชนิดที่ไม่มีใครยอมลดราวาศอก ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเกาหลีเหนือจะยกระดับความรุนแรงในการทดสอบขีปนาวุธขึ้นอีกหรือไม่ และ คิมจองอึน จะตัดสินใจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีด้วยหรือเปล่า เพราะไม่มีใครสามารถเดาใจผู้นำสูงสุดของฝ่ายโสมแดงได้เลย
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
อ้างอิง:
- https://en.yna.co.kr/view/AEN20220307009057325?section=nk/nk
- https://www.reuters.com/world/asia-pacific/north-korea-fires-ballistic-missile-says-south-korean-military-2022-11-02/
- https://en.yna.co.kr/view/AEN20221005004354325?section=nk/nk
- https://www.reuters.com/article/northkorea-missiles-idAFKBN2RT066