×

บช.น. เผยบิดาและตำรวจที่ขับรถชนหมอกระต่าย แจ้งขออุปสมบท แต่ติดคดียังไม่อนุญาตตามระเบียบ ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือ

โดย THE STANDARD TEAM
24.01.2022
  • LOADING...
บช.น. เผยบิดาและตำรวจที่ขับรถชนหมอกระต่าย แจ้งขออุปสมบท

วันนี้ (24 มกราคม) จากกรณี ส.ต.ต. นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1กผ9942 เชียงราย ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

 

ความคืบหน้าล่าสุดที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า กรณีของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล (รพ.) ตำรวจ ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ กรณีของผู้ต้องหาตลอดบิดาผู้ต้องหา แจ้งความจำนงขออุปสมบทภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ โดยมีการขออุปสมบท แต่ยังอยู่ระหว่างติดต่อขอประสานในการขอดำเนินการดังกล่าว แต่เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี อาจไม่สามารถอุปสมบทได้ 

 

อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดเหตุตำรวจเฉี่ยวชนแพทย์หญิงเสียชีวิต มีข้อสงสัยในการดำเนินการหลายประเด็น ทาง บช.น. ขอชี้แจงรายละเอียด ประเด็นแรก เกี่ยวกับการดำเนินคดี ผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บจึงทำการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ พบพนักงานสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์แล้ว ผลปริมาณแอลกอฮอล์มีค่าเป็นศูนย์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 7 ข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ข้อหานำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง, ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย, ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม), พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ข้อหาฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี, ไม่จัดให้รถในทางเดินรถมีส่วนควบที่ครบถ้วนตามกฎหมายและใช้การได้ดี,  ไม่จัดให้มีการประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถปี 2535

 

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และผู้ต้องหาได้พบกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมได้กล่าวขอโทษกับผู้เสียหาย และรับทราบข้อกล่าวหา ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ไม่มีแอลกอฮอล์ในตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีตามหลักความเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือประชาชน 

 

“ส่วนการปล่อยตัวหลังแจ้งข้อกล่าวหา เป็นไปตามหลักของกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 107 ผู้ต้องหาและจำเลยอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ยกเว้นเป็นอุปสรรค กรณีผู้ต้องหาดังกล่าวเข้ามาพบและรับทราบข้อกล่าวหา ไม่หลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่เข้าไปยุ่งกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุความรุนแรง จึงได้ปล่อยตัวโดยไม่มีหลักประกัน ส่วนใช้เวลานานในการส่งพนักงานอัยการนั้น การส่งตัวผู้ต้องหาส่งอัยการเป็นการนัดที่ใช้เวลานานนั้น เป็นการประสานนัดหมายในเบื้องต้น เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นได้เร็วกว่ากำหนดนัด พนักงานสอบสวนสามารถเรียกตัวส่งฟ้องเร็วขึ้นได้” พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าว 

 

พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีการเร่งรัดการตรวจสอบพยานหลักฐาน ผลชันสูตรพลิกศพบาดแผล หลักฐานผู้ครอบครองรถ ผลการตรวจพิสูจน์จากกรมการขนส่งทางบก และหลักฐานอื่นๆ ตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนสามารถใช้เวลาดำเนินการได้ในระยะเวลา 2 เดือน ขณะนี้กำหนดวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. หากทำการเสร็จสิ้นได้เร็วกว่านี้ 

 

ส่วนเป็นรถของกลางหรือไม่นั้น พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าวว่า เป็นรถมือสอง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ราคา 113,000 บาท ข้อห่วงใย ทาง บช.น. ขอวิงวอนให้ประชาชนแชร์กรณีรถ อย่าแชร์ต่อเนื่องจากไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น 

 

ส่วนประเด็นที่พนักงานสอบสวนเก็บพยานหลักฐานไม่ให้โรงพยาบาลทราบนั้น พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งก็ไปในที่เกิดเหตุทันที โดยไม่ทราบว่าผู้บาดเจ็บเสียชีวิตเมื่อได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว 2 ชั่วโมง พนักงาสอบสวนทำการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุประมาณ 30-40 นาที เมื่อกลับมาสถานีตำรวจก็ประสานฝ่ายสืบสวนตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ลงประจำวันบันทึกเอกสารดำเนินคดีกับผู้ต้องหา สืบค้นข้อมูลติดต่อญาติผู้บาดเจ็บโดยยังไม่ได้เสียชีวิต มีบัตรของแพทย์ปฏิบัติงานโรงพยาบาลตำรวจ ขณะนั้นมีแพทย์เป็นเพื่อนผู้เสียชีวิตโทรเข้ามาว่าเสียชีวิต จึงประสานติดต่อญาติ โดยไม่สามารถติดต่อได้ จากนั้นมีอาจารย์แพทย์ติดต่อเข้ามา ขอให้ส่งหลักฐานของแพทย์ผู้เสียชีวิต จึงช่วยประสานญาติอีกส่วนหนึ่ง เมื่อทราบว่าเสียชีวิต ก็นำใบนำส่งชันสูตรบาดแผลให้กับทางโรงพยาบาลราชวิถีทำการรักษา 

 

ด้าน พ.ต.อ. บวรภพ สุนทรเลขา ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล (ผกก.สน.) พญาไท กล่าวว่า วันที่ 21 มกราคม เวลา 15.10 น. มีเหตุรถชนขาออกถนนพญาไท ใช้เวลาตรวจสอบกับกู้ภัยประมาณ 30 นาที จากนั้นได้เอกสารหลักฐานจากพลเมืองดีของผู้เสียหาย จากนั้นดำเนินการประสานตำแหน่งจุดกล้อง CCTV ความมุ่งหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือมุ่งติดต่อญาติ จึงนำหลักฐานสืบค้น ตำรวจไม่สามารถเปิดโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตได้ จากนั้น 16.30 น. ชื่อ น.ส.ใบเฟิร์น โทรมาในเครื่องผู้เสียชีวิต พนักงานสอบสวนจึงขอให้ช่วยติดต่อญาติหรือเพื่อนร่วมงานหลังผู้เสียหายพักรักษาตัวในโรงพยาบาลราชวิถี จากนั้นโต้ตอบ 2-3 ครั้ง ทราบว่าติดต่อญาติไม่ได้ จากนั้นมีชายไม่ทราบชื่อโทรมาเป็นอาจารย์ เวลา 17.30 น. ช่วยตรวจสอบทรัพย์สินผู้เสียหาย ช่วงเวลา 18.00 น. ประมาณ 2 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนนำเอกสารไปให้แพทย์โรงพยาบาลราชวิถี พบเพื่อนร่วมงานผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนส่งมอบทรัพย์สินบางส่วนกับบุคคลที่เป็นอาจารย์ผู้เสียชีวิต จากนั้นเข้ามาสถานีตำรวจพบบิดาของ ส.ต.ต. นรวิชญ์ บอกว่ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เวลา 19.30 น. ส.ต.ต. นรวิชญ์เข้ามอบตัว และตรวจวัดแอลกอฮอล์ เวลา 20.30 น. ได้รับแจ้งว่าผู้เสียหายเสียชีวิต ส่วนกรณีแชร์ข้อมูลในโซเซียลนั้น ทางโรงพักไม่ได้คุยกันประเด็นดังกล่าว ส่วนใน 2 ชั่วโมงที่ใช้เวลาไปนั้น เป็นการตรวจสอบสืบค้นข้อมูลทางระบบบุคคลในครอบครัวเพื่อติดต่อญาติ และยืนยันกับทางโรงพยาบาลว่าเป็นผู้ตายชื่อนี้จริง ทางพนักงานสอบสวนจะต้องนำเก็บหลักฐานเบื้องต้นมาก่อน ขณะนั้นโรงพยาบาลไม่ทราบว่าผู้ป่วยชื่ออะไร ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องทำการตรวตสอบ จากนั้นมาทราบอีกครั้งว่าเสียชีวิตในช่วงเวลา 17.00 น. โดยได้รับการยืนยันจากเพื่อนว่าเสียชีวิต ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนนั้น คำให้การขณะนี้มีการสอบสวนเพิ่มเติมอีก 

 

ส่วนมีการโอนเงินหรือไม่นั้น พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นการขอให้นำเอกสารเกี่ยวกับรถมามอบให้ ได้ติดต่อเจ้าของเดิมที่จังหวัดเชียงราย ซื้อขายผ่านร้านย่านเกษตรนวมินทร์ มีการซื้อขายถูกต้องทุกอย่าง ส่วนการสอบทางวินัยนั้น ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการพิจารณาให้ไปช่วยราชการแต่อย่างใด ผบช.น. ให้ความสำคัญ จะเร่งรัดการตรวจสอบโดยเร็วที่สุดไม่เกิน 7 วัน ส่วนการเยียวยาอย่างไรนั้น ทางผู้ก่อเหตุได้ขอโทษบิดามารดา และอุปสมบท ส่วนการเยียวยาจะมีการเรียกคุยเจรจาเพื่อชดใช้ค่าสินไหมทางแพ่ง ส่วนของ บช.น. นั้นจะมีการพิจารณาประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง ว่าจะมีการดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง 

 

“อย่างไรก็ตาม การดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตำรวจอยู่ที่ปลายเหตุ การช่วยกันเสริมสร้างรักษาวินัยจราจรถือเป็นเรื่องสำคัญ การข้ามทางม้าล้ายต้องมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง ทางตำรวจขอเรียกร้องในการเสริมสร้างวินัยจราจร ตรงนี้ตำรวจเข้าไปปฏิบัติเป็นประจำ เข้าไปกับสถานประกอบการ นักเรียน ผู้เกี่ยวข้อง ทุกองค์กรต้องช่วยกันเสริมสร้างวินัยจราจร ตำรวจอาจเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย ก็ยังบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือใครก็ตาม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการช่วยเหลือกันแม้ผู้ต้องหาเป็นตำรวจ แพทย์ผู้เสียชีวิตปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลตำรวจ ทาง ผบช.น. เน้นย้ำให้ความยุติธรรม ดำเนินคดีตรงไปตรวจมา ไม่ได้มีการช่วยเหลืออย่างที่สังคมเข้าใจแต่อย่างใด” พล.ต.ต. จิรสันต์กล่าว 

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานแจ้งว่าในส่วนที่ ส.ต.ต. นรวิชญ์ อยากจะอุปสมบทเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับผู้เสียชีวิต ในเบื้องต้นทางวัดที่ได้มีการติดต่อไว้ยังไม่อนุญาตให้บวช เนื่องจากยังมีความเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงอาจจะเปลี่ยนเป็นการบวชหน้าไฟแทน ซึ่งต้องรอการประสานวัดและญาติของผู้เสียชิวิต

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising