วันนี้ (6 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา นันทนา นันทวโรภาส สว. และ น.ต. วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. แถลงข่าวกรณีรวบรวมรายชื่อ สว. ได้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมดในวุฒิสภา เพื่อยื่นคำร้องถึงประธานวุฒิสภาให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยขอให้ สว. ทั้ง 136 คน พ้นสมาชิกภาพ และขอให้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หรืออย่างน้อยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระไว้ก่อน
น.ต. วุฒิพงศ์ระบุว่า ในนามของ สว. กลุ่มอิสระ หรือที่เรียกตัวเองว่า ‘Non-Blue’ จำนวนอย่างน้อย 50 กว่าท่าน มีความเห็นร่วมกันว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นปรากฏข้อเท็จจริงและพฤติการณ์จากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ปรากฏตามสื่อมวลชนทั่วไป ให้เห็นว่า สว.จำนวนหนึ่งตามรายชื่อ มีมูลกระทำอันเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง สว. พ.ศ. 2567 หรือที่เรียกกันว่า ‘ฮั้ว สว.’ ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงเหล่านี้ยังได้พิสูจน์ทราบ แต่เรื่องราวต่างๆ ได้ทำการสืบสวนและไต่สวนในอนุกรรมการของ กกต. ชุดที่ 26 เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ เรื่องอยู่ที่ กกต.ในการดำเนินการต่อไป
“แม้กระทั่งอยู่บนดาวอังคารยังเห็นเลยว่า มีกระบวนการที่ไม่ชอบมาพากล เป็นเหตุแห่งความทุกข์ของบรรดา สว.อิสระทั้งหมด ที่ไปตามท้องตลาด ก็มีคนซักถามว่า สว. ฮั้ว หรือไม่ เพื่อนฝูงโดนติฉินนินทา โลกวัชชะ หรือโลกติเตียน เป็นจำนวนมาก ดังนั้น สว. จำนวนหนึ่ง ที่ไม่ต่ำกว่า 30 คน จึงร่วมกันลงลายมือชื่อ” น.ต. วุฒิพงศ์กล่าว
น.ต. วุฒิพงศ์ยอมรับว่า มีความรักความผูกพันกับเพื่อน สว. เพราะหลายท่านก็เป็นคนดี มีฝีมือ มีน้ำใจ แต่วันนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมติเตียน สว.เป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นไปได้ก็ทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน ในการเร่งดำเนินคดีให้เสร็จเรียบร้อย ไม่มีการดึง หรือถ่วงรั้งเวลาไว้ จึงจะเป็นเรื่องที่เหมาะสม ให้ทุกคนได้ไปทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมานั่งกังวลแบบเดิมอีกต่อไป
นันทนากล่าวเสริมว่า กระบวนการของ กกต. อาจใช้เวลาถึง 8 เดือน หรือเสร็จสิ้นในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2569 หากยังปล่อยให้กระบวนการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งดำเนินต่อไป สว. จะสามารถเลือก กกต. เข้าไปเพิ่ม ได้อีก 4 คน ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มไปอีก 1 คน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ก็จะเป็นผู้วินิจฉัยตัดสินคดีที่ สว. 138 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอยู่ และคดีที่ค้างใน กกต. ก็จะถูกวินิจฉัยโดย กกต. ที่ได้รับเลือกจาก สว. ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเหล่านี้ และท่านทั้งหลายคงเกิดความแคลงใจ ถึงผลคำวินิจฉัยที่จะออกมาว่าจะเป็นคุณกับฝ่ายใด
“กราบเรียนไปยังประธานวุฒิสภา เพื่อโปรดนำส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยพลัน พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านประธานวุฒิสภา จะใช้มาตรฐานเดียวกับการที่ได้รับคำร้องของ สว. เสียงข้างมากในตอนเช้า และดำเนินการส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญในตอนบ่ายทันที” นันทนากล่าว
อย่างไรก็ตาม นันทนายังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของ สว.หากเป็นการสั่งหยุดปฏิบัติโดยศาลรัฐธรรมนูญ การทำหน้าที่ของ สว.ในวุฒิสภาที่เหลือ ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ เป็นองค์ประชุม ถือว่าเป็นคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และหลังจากที่มีคำวินิจฉัยแล้ว จึงจะมีการดำเนินการเลื่อน สว.สำรองขึ้นมา
น.ต. วุฒิพงศ์กล่าวอีกว่า จำนวน สว.ที่ลงชื่อ 30 คน บวกลบ ขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง และเปิดเผยว่า มีโทรศัพท์เข้ามาทุกวัน อยากได้อะไร อยากให้ทำอะไร ทำได้หมดทุกอย่าง แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ คือให้ความยุติธรรมกับประชาชนที่ถูกขโมยไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของ สว. ทั้งหลาย จึงไม่สามารถเปิดเผยชื่อ สว. ที่ร่วมลงชื่อได้ จนกว่าคำร้องจะส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญ
นันทนาเปิดเผยว่า มีปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำ การคุกคามและโทรศัพท์มาเจรจาต่อรองให้ถอนชื่อออกตลอดทั้งคืน แต่ขอให้ปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำนั้น ไม่สามารถมาบล็อกเราได้ก่อน เพราะขนาด น.ต. วุฒิพงศ์ยังเกือบถูกชกหน้า ที่หน้าห้องประชุมสภา แต่มี สว. อีกคนช่วยห้ามไว้ ถือเป็นปฏิบัติการทางร่างกาย และวาจาด้วย